หลังจากเกิดดราม่าครั้งใหญ่ในวงการแบดมินตันไทย กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้สังคมหันมามองปัญหาเชิงโครงสร้างของวงการกีฬาไทยอีกครั้ง
ล่าสุด หมิว-พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ นักแบดมินตันสาวไทยมือ 6 ของโลก ได้เปิดใจกับ THE STANDARD SPORT ถึงเหตุผลที่ลุกขึ้นมาพูด พร้อมสะท้อนเสียงจากหัวใจของนักกีฬาที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง
“หมิวรู้สึกว่ามันเป็นบาดแผลในใจค่ะ ที่เราสะสมมานาน แล้วมันไม่ใช่แค่เรื่องเดียว มันมีหลายอย่างที่ทำให้เกิดปัญหาภายในวงการ ด้วยคำพูดหรือวิธีการทำงานที่ไม่ได้เอื้อต่อนักกีฬานอกสมาคมฯ หนูเลยรู้สึกว่ามันถึงเวลาที่เราต้องพูดออกมา”
เธอบอกว่าหลังจากได้พูดคุยกับ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่รับปากจะเข้ามาดูแลและแก้ไขปัญหาในสมาคม ก็ทำให้เธอตัดสินใจกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งในซีเกมส์ (หลังประกาศถอนตัวไปก่อนหน้านี้) แต่ในใจยังคงหวังว่า การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นจริง
“หนูรู้ว่ามันมีขั้นตอน แต่ก็อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมเร็วที่สุด อยากให้ผู้ใหญ่เห็นใจนักกีฬา ลงมาดูแลใกล้ชิดมากกว่านี้”
นอกจากนี้ พรปวีณ์ยังพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า การสนับสนุนด้านกีฬาในประเทศไทย ‘ยังไม่เพียงพอ’ โดยเฉพาะกับแบดมินตัน ซึ่งนักกีฬาหลายคนต้องพึ่งพาครอบครัวและตัวเองมากกว่าได้รับการดูแลจากระบบ
“หนูว่าการสนับสนุนของประเทศไทยในหลายกีฬายังไม่ดีพอ โดยเฉพาะแบดมินตัน นักกีฬาหลายคนอยู่ได้เพราะคุณพ่อคุณแม่ช่วย แต่ในเมื่อเราลงแข่งขันในนามทีมชาติไทย มันควรจะได้รับการดูแลที่ดีกว่านี้”
เมื่อถามถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเองตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอบอกว่าเส้นทางอาชีพและบทเรียนในชีวิตทำให้เธอเติบโตขึ้นมาก
“ตอนนี้หนูนิ่งขึ้นเยอะค่ะ ผ่านปัญหามาเยอะ ทั้งจากการซ้อมและการแข่งขัน ทุกที่มีปัญหาแต่เราแก้ไขได้ แต่มันถึงเวลาที่เราต้องแก้ไข ‘ระบบ’ แล้ว เพื่อให้วงการนี้พัฒนา และมีรุ่นน้องใหม่ๆ ขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ได้ในอนาคต”
แม้จะผ่านช่วงเวลายากลำบาก แต่พรปวีณ์ยืนยันว่า เธอยังมีแรงใจที่จะกลับมาทุ่มเทในสนามซีเกมส์อีกครั้ง
“หนูไม่กดดันเลยค่ะ หนูรู้ว่าการแข่งขันประเทศทีมจะเข้มข้นแน่ๆ เพราะแต่ละประเทศมีมือระดับต้นๆ ทั้งนั้น แต่หนูจะเตรียมตัวให้ดีที่สุด ผลแพ้ชนะขอให้เป็นเรื่องของกีฬา หนูยอมรับได้เสมอ”
ก่อนจบการสัมภาษณ์ เธอฝากข้อความถึงแฟนกีฬาทุกคนด้วยน้ำเสียงที่ยังเต็มไปด้วยพลังใจ
“ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ ทั้งจากแฟนๆ และทุกคนที่ส่งข้อความมาให้ หนูจะสู้ให้เต็มที่ที่สุดในซีเกมส์ครั้งนี้ และหวังว่าการเปลี่ยนแปลงที่หนูพูดถึง…จะเกิดขึ้นจริง เพื่ออนาคตของนักกีฬาไทยทุกคนค่ะ”


