ถึงแม้เวลาจะผ่านมาปีเศษแล้วนับจากที่ ลิโอเนล เมสซี นักฟุตบอลหมายเลขหนึ่งของโลกตัดสินใจย้ายมาเล่นให้กับทีมอินเตอร์ ไมอามี เอฟซี สโมสรฟุตบอลใน เมเจอร์ลีกซอกเกอร์ หรือ MLS สหรัฐอเมริกา แต่ดูเหมือนปรากฏการณ์ของราชาลูกหนังยังไม่สิ้นสุดง่ายๆ
ในทางตรงกันข้าม เมสซียังสร้างปรากฏการณ์ต่อเนื่องไม่เพียงแค่เรื่องในสนาม แต่รวมถึงเรื่องนอกสนามซึ่งเกินกว่าที่ใครหลายคนคาดคิดมาก โดยเวลานี้ทีมอินเตอร์ ไมอามี ที่มี เดวิด เบ็คแฮม อดีตซูเปอร์สตาร์วงการลูกหนังเป็นหุ้นส่วนร่วมกับ โชเซ มาส (Jose Mas)
กลายเป็นทีมกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดบนโซเชียลมีเดีย ตามข้อมูลจากการสำรวจของ Blinkfire Analytics ขณะที่รายรับของทีมเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าตัวสู่ตัวเลขหลักเกือบ 200 ล้านดอลลาร์ (6.7 พันล้านบาท)
ไม่ว่าเมสซีจะลงแข่งวันไหนผู้ชมจะเต็มความจุสนามทุกครั้ง และเสื้อสีชมพูของทีมอินเตอร์ ไมอามี ที่พิมพ์ชื่อ Messi คือเสื้อแข่งที่ขายดีที่สุดในโลกด้วย
อย่างไรก็ดี ปรากฏการณ์เมสซีไม่ได้มีผลเพียงแค่ต่อทีมฟุตบอลแห่งไมอามี เพราะทางด้าน MLS เปิดเผยเองว่า ปัจจุบันมูลค่าของลีกเพิ่มขึ้นอีก 3.2 พันล้านดอลลาร์ (1.07 แสนล้านบาท) โดยคาดว่าปัจจุบันมูลค่ารวมของทั้งลีกสูงกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ (6.7 แสนล้านบาท) เพิ่มจาก 10 ปีที่แล้วถึง 7 เท่าด้วยกัน
โดยที่ซูเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนตินาวัย 37 ปี กลายเป็นพลังผลักดันที่สำคัญของวงการฟุตบอลสหรัฐอเมริกา ที่กำลังเตรียมจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2026 ร่วมกับแคนาดาและเม็กซิโก
มาส ในฐานะหนึ่งในผู้บริหารสูงสุดของทีม และเป็นบุตรชายของ ฮอร์เก มาส คาโนซา อดีตผู้นำชาวคิวบาที่ลี้ภัยมาจากสหรัฐอเมริกา เชื่อว่าความมหัศจรรย์ของเมสซียังไม่มีแววจะสิ้นสุดลงง่ายๆ
โดยทำนายว่าเขาจะทำให้มูลค่าของทีมอินเตอร์ ไมอามี ทะยานไปสู่หลัก 2 พันล้านดอลลาร์ (6.7 หมื่นล้านบาท) ภายในช่วงสิ้นปี 2025 ซึ่งจะเป็นการเพิ่มจากปี 2022 ถึง 3 เท่าตัว
ในแง่ของการรับรู้ มาสบอกว่าเมสซีทำให้ชื่อของอินเตอร์ ไมอามี กลายเป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก “ถ้าลองถามใครก็ได้ว่าจำชื่อทีมฟุตบอลได้สัก 7-8 ทีมไหม จะมีชื่อของทีมเราอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผมภูมิใจมาก”
แต่ในความดีงามทั้งหมดนี้ คำถามสำคัญสำหรับมาสคือ อนาคตของทีมหากถึงวันที่เมสซีหมดสัญญา หรือตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอลจะทำอย่างไร?
ตามสัญญาแล้วเจ้าของแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 จะอยู่กับอินเตอร์ ไมอามี จนสิ้นปี 2025 ซึ่งยังเหลือเวลาอีกพอประมาณ แต่ด้วยวัยที่ล่วงมาถึง 37 ปี เมสซีเริ่มประสบปัญหาอาการบาดเจ็บบ่อยครั้ง และแต่ละครั้งใช้ระยะเวลายาวนานในการฟื้นฟูสภาพร่างกาย
โดยนับจากการได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโคปาอเมริกา 2024 กับทีมชาติอาร์เจนตินา ก็ไม่ได้ลงสนามอีกเป็นระยะเวลายาวนาน และหากนับจำนวนเกมที่พลาดการลงสนามให้กับทีมแล้วมีมากกว่า 24 แมตช์
ในความเห็นส่วนตัวมาสยังเชื่อว่าเมสซีจะยังไม่คิดที่จะอำลาวงการง่ายๆ และนั่นหมายถึงโอกาสสำหรับอินเตอร์ ไมอามี และวงการฟุตบอลสหรัฐอเมริกา ที่จะใช้พลังของนักเตะหมายเลข 10 ที่เก่งที่สุดในโลกขับเคลื่อนวงการไปอีกระยะ แต่ถ้าถึงเวลาที่ทุกอย่างจะสิ้นสุดลง หลายอย่างคงไม่เหมือนเดิม
ไซมอน คูเปอร์ ผู้เขียนหนังสือ The Barcelona Complex: Lionel Messi and the Making – and Unmaking – of the World’s Greatest Soccer Club ตั้งคำถามเช่นกัน “ลูกๆ ของผม หรือลูกๆ ของคนอื่นจะยังอยากซื้อเสื้ออินเตอร์ ไมอามี อีกไหมถ้าไม่มีเมสซีอยู่ที่นี่แล้ว?”
แต่สำหรับเจ้าของทีมหลายแห่งพวกเขายังเชื่อว่าต่อให้เมสซีอำลาอินเตอร์ ไมอามี ไปแล้ว ฟุตบอลของสหรัฐฯ ก็จะยังคงเติบโตต่อไป หนึ่งในนั้นคือ แอลเอ กาแล็กซี สโมสรผู้ร่วมก่อตั้งลีกที่เคยสร้างปรากฏการณ์แบบนี้มาก่อนเป็นทีมแรกของวงการด้วย
เมื่อคว้า เดวิด เบ็คแฮม มาจากเรอัล มาดริด ในปี 2006 ซึ่งหลังอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษอำลาทีมไป พวกเขาก็คว้าสตาร์รุ่นต่อๆ มาอย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และปัจจุบันคือ มาร์โก รอยส์ อดีตนักเตะทีมชาติเยอรมนี
“มันก็จะเป็นแค่คำถามว่า แล้วใครจะเป็นคนต่อไป?” ทอม บรอน ผู้บริหารระดับสูงของแอลเอ กาแล็กซีกล่าว “ลีกของเรายังคงเติบโตต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมีผู้เล่นระดับสตาร์ย้ายเข้ามาหรือย้ายออกไป”
สำหรับมาส ถ้าเลือกได้ก็อยากให้เมสซีขยายระยะเวลาในสัญญาออกไปอีก แต่ก็ไม่ประมาทโดยส่งแมวมองเฟ้นหานักเตะพรสวรรค์ฝีเท้าดีมาร่วมทีมทั้งในอเมริกาใต้ สหรัฐอเมริกา และในยุโรป แม้จะรู้ว่าการจะหานักเตะระดับ Global Icon อย่างเมสซีเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้
คนเดียวที่สู้ได้คือ คริสเตียโน โรนัลโด ที่เป็นสมบัติสุดหวงของซาอุดีอาระเบียไปแล้ว ในสัญญากับทีมอัล นาสเซอร์ ขณะที่ซูเปอร์สตาร์รุ่นใหม่อย่าง จูด เบลลิงแฮม, เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ และ คีเลียน เอ็มบัปเป ก็ไม่มีแผนที่จะย้ายมาลีกที่เล็กกว่าอย่าง MLS
ต่อคำถามว่า แล้วถ้าเมสซีไม่อยู่จะเป็นอย่างไร เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่สิ่งที่ดีที่สุดตอนนี้อาจจะเป็นการพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ และมีความสุขให้มากที่สุดตราบเท่าที่เมสซียังใส่เสื้อสีชมพูสดใสตัวนี้อยู่
ภาพ: USA TODAY Sports via Reuters Connect
อ้างอิง: