×

รู้จัก ‘MercadoLibre’ หรือแพลตฟอร์ม MELI อีคอมเมิร์ซครบวงจรเบอร์ 1 ในแถบลาตินอเมริกา เจ้าของฉายา ‘Amazon’ แห่งทวีปอเมริกาใต้

07.05.2023
  • LOADING...
MercadoLibre

กระแสการเติบโตของอีคอมเมิร์ซคือสิ่งที่ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ ไม่ว่าจะในประเทศพัฒนาแล้วหรือประเทศกำลังพัฒนาก็ตาม เนื่องจากบริการดังกล่าวสามารถเสนอทั้งความสะดวก รวดเร็ว และต้นทุนต่ำ ทำให้ผู้คนในโลกต่างหลงใหลการซื้อของผ่านอีคอมเมิร์ซ 

 

ซึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกาก็มีแพลตฟอร์มหนึ่งที่เป็นที่รักของผู้ใช้งาน และสามารถเติบโตอย่างมหาศาลนั่นก็คือ Amazon หรือหากย้อนมองมาที่ภูมิภาคของเราอย่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็มีแพลตฟอร์มที่คงจะไม่มีใครไม่รู้จักอย่าง Shopee และ Lazada ที่มีการเติบโตขึ้นมาอย่างมากมายเช่นกัน

 

เช่นเดียวกัน ประเทศในแถบลาตินอเมริกาก็มี ‘MercadoLibre’ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเบอร์ 1 ในแถบลาตินอเมริกา ที่ยังเติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมา จนได้ชื่อว่าเป็น Amazon แห่งทวีปอเมริกาใต้เลยก็ว่าได้ 

 

บริษัท MercadoLibre ได้เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ในทริกเกอร์หุ้น ‘MELI’ ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมปี 2007 ด้วยราคาเปิดที่ 18 ดอลลาร์ต่อหุ้น และราคาหุ้นเคยไต่ระดับขึ้นทำจุดสูงสุดที่ราว 1,900 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงปี 2021 หรือคิดเป็นการปรับตัวกว่า 10,000% ในเวลาเพียงแค่ 14 ปี 

 

แล้วอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้หุ้น ‘MELI’ เติบโตได้ขนาดนี้ THE STANDARD WEALTH จะมาสรุปให้ฟัง

 

1. ให้บริการอีคอมเมิร์ซครบวงจร 

MercadoLibre เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจร และผู้ให้บริการด้านการเงินเบอร์ 1 ในแถบลาตินอเมริกา (มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศอุรุกวัย) ด้วยจำนวนผู้ใช้งานแบบ ‘Active Users’ กว่า 148 ล้านราย (จากจำนวนประชากรในลาตินอเมริกาทั้งหมด 650 ล้านคน) โดยให้บริการในกว่า 18 ประเทศในแถบลาตินอเมริกา ซึ่งเป็นแถบที่มีโอกาสในการเติบโตของผู้ใช้งานบนอินเทอร์เน็ตในอนาคตที่อยู่ในระดับสูง อาทิ อาร์เจนตินา, บราซิล, เม็กซิโก และเวเนซุเอลา และในทุกประเทศที่ ‘MELI’ เข้าไปให้บริการ ก็เป็นผู้นำตลาดในประเทศเหล่านั้น 

 

โดย MercadoLibre นั้นมีขาธุรกิจหลักๆ อยู่ 6 สายที่กำลังเติบโตอย่างโดดเด่นในทุกด้าน ได้แก่ Mercado Libre ซึ่งให้บริการในด้านอีคอมเมิร์ซ, Mercado Envios ให้บริการด้านโลจิสติกส์, Mercado Pago ให้บริการในด้านการเงิน และ Mercado Credito ให้บริการด้านสินเชื่อ, Mercado Shops ให้บริการหน้าร้านออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการ, Mercado Libre Publicidad แพลตฟอร์มเกี่ยวกับโฆษณาออนไลน์

 

รายได้ของ MELI

  • ในปี 2021 7,000 ล้านดอลลาร์ (210,000 ล้านบาท)
  • ในปี 2022 10,000 ล้านดอลลาร์ (300,000 ล้านบาท) เติบโตจากปีก่อนหน้า 42% 
  • ในปี 2023 (ไตรมาส 1) 3,040 ล้านดอลลาร์ (106,400 ล้านบาท) เติบโตจากปีก่อนหน้า 35% (เติบโต 58.4% หลังหักผลการเปลี่ยนแปลงจากค่าเงิน)

 

กำไรของ MELI

  • ในปี 2021 83 ล้านดอลลาร์ (2,400 ล้านบาท)
  • ในปี 2022 428 ล้านดอลลาร์ (12,800 ล้านบาท) เติบโต 415% จากปีก่อนหน้า
  • ในปี 2023 (ไตรมาส 1) 201 ล้านดอลลาร์ (7,000 ล้านบาท) เติบโต 209% จากปีก่อนหน้า

 

โดยมาจาก Mercado Libre มาร์เก็ตเพลสของ ‘MELI’ โดยมาจากยอดการซื้อขายสินค้าบนแพลตฟอร์มรวม (Gross Merchandise Volume: GMV) ที่เติบโตจากปีก่อนหน้า 21% (หักมูลค่าจากอัตราการแลกเปลี่ยนแล้ว) ซึ่งมาจากประเทศอาร์เจนตินา เม็กซิโก และบราซิล เป็นหลัก รวมไปถึงยอดการขนส่งจาก Mercado Envios ที่เติบโตขึ้น 14% จากปีก่อนหน้า และการเติบโตของยอดธุรกรรมบน ‘Mercado Pago’ กว่า 60% จากปีก่อนหน้า 

 

2. จับตลาดลาตินอเมริกาที่มีแนวโน้มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่ม 

MercadoLibre เน้นไปทำธุรกิจในประเทศแถบลาตินอเมริกา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีจำนวนประชากรอยู่เยอะ คิดเป็นประมาณ 650 ล้านคน ณ ขณะนี้ (และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต) โดย MELI ให้บริการในกว่า 18 ประเทศในแถบลาตินอเมริกา ทั้งนี้ ลาตินอเมริกามีโอกาสในการเติบโตของผู้ใช้งานบนอินเทอร์เน็ตในอนาคตสูง เช่น อาร์เจนตินา, บราซิล, เม็กซิโก และเวเนซุเอลา และในทุกประเทศที่ ‘MELI’ เข้าไปให้บริการ ก็เป็นผู้นำตลาดในประเทศเหล่านั้น

 

ปัจจุบัน ‘MELI’ มีจำนวนผู้ใช้งานเพียงแค่ 148 ล้านราย โดยเป็นจำนวนผู้ใช้งานบน ‘Mercado Libre’ (อีคอมเมิร์ซ) เพียง 46 ล้านราย หรือคิดเป็น 7% ของประชากรทั้งหมดเท่านั้น จึงนับได้ว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต หากเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ ที่ผู้ใช้งานมีอัตราการเข้าถึงอีคอมเมิร์ซสูงถึง 80.8% (การคาดการณ์ ณ สิ้นปี 2023)

 

3. เข้าถึงกลุ่ม Underbanked ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 75% ของประชากรทั้งหมด

ประกอบกับจำนวนประชากรที่เข้าไม่ถึงบริการทางด้านการเงิน (Underbanked) ในแถบลาตินอเมริกาที่มีอยู่ในสัดส่วนที่สูงมาก ซึ่งคิดเป็น 75% ของประชากรทั้งหมด โดยประชากรเหล่านี้ไม่สามารถมีแม้กระทั่งบัญชีธนาคารของตนเองด้วยซ้ำ ทำให้การเข้ามาของ ‘Mercado Pago’ เปิดโอกาสให้กลุ่ม ‘Underbanked’ สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างที่เขาเหล่านั้นไม่เคยได้รับมาก่อน อาทิ การมีบัญชีธนาคารดิจิทัลของตัวเอง, การกู้ยืมเงินผ่าน ‘Mercado Credito’ หรือการเปิดบัญชีลงทุน โดยในขณะนี้ ‘Mercado Pago’ มีจำนวนบัญชีผู้ใช้งานอยู่ที่เพียง 43.7 ล้านบัญชี

 

นอกจากนี้ ในช่วงก่อนหน้า ‘MELI’ ยังต้องเผชิญกับคู่แข่งเบอร์ต้นอย่าง ‘Sea Limited’ ที่เข้าไปทำการตลาดในประเทศแถบลาตินอเมริกา แต่ในท้ายที่สุดคู่แข่งเหล่านั้นก็ต้องขนของกลับบ้านกันไป ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ ‘MELI’ 

 

อย่างไรก็ตาม ‘MELI’ ยังมีความเสี่ยงที่ต้องจับตา คือการเข้าไปทำธุรกิจในประเทศแถบลาตินอเมริกาซึ่งขาดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศเหล่านั้นเกิดการอ่อนค่าของค่าเงินอย่างชัดเจน ที่เห็นชัดที่สุดคือประเทศอาร์เจนตินาที่ค่าเงินเปโซอ่อนค่าลงมากกว่า 50% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา 

 

หรือแม้แต่ประเทศบราซิลที่ค่าเงินเรียลบราซิลอ่อนค่าลงมามากกว่า 50% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 2 ประเทศนี้จัดเป็นตลาดหลักที่ ‘MELI’ เข้าไปทำธุรกิจ จึงอนุมานได้ว่าหากในอนาคตทางบริษัทไม่สามารถบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนได้ ก็อาจกระทบกับกำไรของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising