ในโลกของคริปโทเคอร์เรนซีที่มีเหรียญมากมาย ประเภทของเหรียญกลุ่มหนึ่งที่ได้รับความสนใจและถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายก็คือเหรียญมีม (Meme Coins) ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากเรื่องตลกขบขันบนโลกอินเทอร์เน็ต แต่กลับกลายเป็นปรากฏการณ์โด่งดังจนสามารถสร้างมูลค่าตลาดได้หลายพันล้านดอลลาร์ในแบบที่บางคนอาจคาดไม่ถึง
เหรียญมีมในปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 340 เหรียญ และมีมูลค่ารวมกว่า 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568) แต่อะไรทำให้เรื่องตลกขบขันบนโลกอินเทอร์เน็ตที่ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบของเหรียญคริปโตมีมูลค่าได้มากขนาดนี้ และสำหรับใครที่อยากตบเท้าเข้ามา ‘ศึกษาและลงทุน’ เราควรมองเหรียญมีมเป็นเรื่องจริงจังขนาดไหน?
เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นพูดคุยบนเวที ‘Meme Coins: The joke that became serious’ ในงาน Street of the Future ที่จัดโดย BINANCE TH อีเวนต์ใหญ่ใจกลางสยาม ที่ทีมงาน THE STANDARD WEALTH มีโอกาสเข้าไปฟังและถอดความคิดมาให้ทุกคนได้ติดตาม เพื่อหาคำตอบว่านักลงทุนรุ่นใหม่ๆ ควรพิจารณาเหรียญมีมในมุมไหนบ้าง
เหรียญมีม: ความตลกที่สร้างมูลค่าได้
เหรียญมีมได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องตลกและวัฒนธรรมบนอินเทอร์เน็ต ที่รวมความสนใจของผู้คนที่คล้ายกันและอยากส่งต่อให้กับผู้อื่นผ่าน Meme Coins ซึ่งเหรียญมีมนั้นแตกต่างจาก Bitcoin ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อต้องการปฏิวัติระบบการเงิน
ถ้าเอ่ยถึงเหรียญมีมที่ยืนยาวและมีมูลค่ามากที่สุดในปัจจุบัน ก็คงจะลืมนึกถึง Dogecoin (DOGE) เหรียญรูปสุนัขสายพันธุ์ชิบะไปไม่ได้ เพราะ DOGE คือเหรียญมีมอันดับ 1 และเป็นเหรียญคริปโตที่ครองมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 8 ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ตามการจัดเรียงของเว็บ CoinMarketCap
DOGE ถูกสร้างขึ้นในปี 2013 โดย Billy Markus และ Jackson Palmer ด้วยเหตุผลที่เขาต้องการจะเติมสีสันให้กับวงการคริปโตที่ก่อนหน้านี้มีแต่เรื่องซีเรียสและซับซ้อน ซึ่งผลงานของพวกเขาก็เริ่มได้รับความนิยมจากชุมชน โดย DOGE ถูกใช้สำหรับการให้ทิปออนไลน์และกิจกรรมการกุศล ต่อมาในช่วงปี 2021 Elon Musk ก็ผลักดัน DOGE เป็นที่รู้จัก และเปลี่ยนเหรียญที่มีจุดเริ่มต้นจากเรื่องตลกให้กลายเป็นส่วนสำคัญในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี
ด้วยลักษณะที่ดูเข้าถึงง่าย เหรียญมีมจึงกลายเป็นหนึ่งทางเลือกของนักลงทุนหลายกลุ่ม ในขณะที่เหรียญใหม่ๆ ก็เข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้น ในงาน Street of the Future ของ BINANCE TH เองก็มีโปรเจกต์เหรียญมีมที่มาร่วมงาน ได้แก่ MOODENG SOL (เหรียญหมูเด้งบนบล็อกเชน Solana), MEMELAND, และ PNUT เป็นต้น
ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน ผู้ร่วมก่อตั้งและที่ปรึกษาของ FWX และอาจารย์ภาควิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนึ่งในผู้ร่วมเสวนาบนเวทีอธิบายปรากฏการณ์ของเหรียญมีมที่นักลงทุนหลายคนให้ความสำคัญอย่างน่าสนใจว่า “เหรียญมีมเปรียบได้กับศิลปะ ที่บางคนก็แค่ชอบในผลงาน และนั่นคือวิธีที่งานศิลปะนั้นๆ มีคุณค่า เหมือนกับการเดี่ยวไมโครโฟนเล่าเรื่องตลก ที่อาจดูไม่จริงจังแต่มันก็สร้างคุณค่าในสังคมได้ในตัวมันเอง”
ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน ผู้ร่วมก่อตั้งและที่ปรึกษาของ FWX และอาจารย์ภาควิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ความไม่ซีเรียสของเหรียญมีม ที่บางคนกลับเลือกจะ ‘ซีเรียส’ กับมัน
แม้ว่ากลุ่มคนบางกลุ่มจะมองเหรียญมีมเป็นเรื่องที่ไม่มีสาระ แต่กับอีก 2 ผู้ร่วมเสวนาบนเวทีที่เลือกทำงานอย่างจริงจังเพื่อพัฒนาระบบนิเวศของเหรียญมีมอย่าง Antoine Rousseaux ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม Handsome Finance และ Ray Chan ซีอีโอของ Memeland ต่างมองว่าเหรียญมีมนั้นมีคุณสมบัติพิเศษ 2 อย่างที่น่าดึงดูดในแบบที่การลงทุนดั้งเดิมไม่สามารถทำได้ จนทั้งสองคนตัดสินใจที่จะมองเหรียญมีมด้วยความจริงจัง
1. ความสามารถในการสร้างผลกำไร: Antoine มองว่าการที่เหรียญมีมถูกใช้เป็นเครื่องมือเก็งกำไรนั้นเป็นประเด็นที่ต้องยอมรับ โดยเหรียญอย่าง Dogecoin คือจุดสร้างกระแสด้วยราคาที่พุ่งขึ้นกว่า 12,000% ในช่วงกลางปี 2021 แต่เขากล่าวเสริมว่า “ในบางกรณีตลาดหุ้นก็คือการเก็งกำไรเช่นกัน หากคุณอยากสร้างรายได้ คุณก็ต้องจริงจังกับมัน ดังนั้นการเก็งกำไรไม่ใช่เรื่องผิด”
อย่างไรก็ตาม การเก็งกำไรนั้นมาพร้อมความเสี่ยงเสมอ โดย Antoine ย้ำว่า อย่าลงทุนด้วยเงินที่เสียไม่ได้ และการศึกษาค้นคว้าข้อมูลก่อนลงทุนนั้นยังเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
Antoine Rousseaux ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม Handsome Finance
2. พลังของคอมมูนิตี้: Ray Chan ซีอีโอของ Memeland เล่าว่า การเลือกมองเหรียญมีมแค่มิติของการ ‘เก็งกำไร’ อาจจะไม่ได้สรุปศักยภาพของเหรียญอย่างรอบด้าน เพราะ Ray มีเป้าหมายในบริษัทของเขาที่อยากจะทำให้เหรียญมีมถูกใช้ประโยชน์มากขึ้น ไม่ใช่แค่ไว้เก็งกำไร แต่เป็นเครื่องมือที่ส่งเสริมคอมมูนิตี้
Ray เชื่อว่าเหรียญมีมเป็นมากกว่าเครื่องมือทางการเงิน สิ่งนี้คือปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่สร้างคอมมูนิตี้นั้นๆ หรือดึงผู้คนที่สนใจสิ่งเดียวกันเข้ามารวมตัวกันเป็นชุมชน แบ่งปันเรื่องราวและความรู้สึก
“เมื่อพวกเขาชนะ พวกเขาชนะด้วยกัน และเมื่อแพ้ พวกเขาก็แบ่งปันความรู้สึกนั้นด้วย” Ray กล่าวพร้อมอธิบายว่า นี่คือพลังที่คอมมูนิตี้สร้างขึ้น ซึ่งนำไปสู่กิจกรรมในโลกความจริง เช่น การบริจาคเพื่อการกุศล การระดมทุน และแม้แต่การใช้จ่ายสินค้าและบริการที่สอดคล้องกับคุณค่าคอมมูนิตี้นั้นๆ
Ray Chan ซีอีโอของ Memeland
อะไรที่นักลงทุนควรเข้าใจก่อนกระโจนลงทุนในเหรียญมีม?
อีกหนึ่งคำถามสำคัญสำหรับนักลงทุนที่จะเข้ามาในตลาดนี้ก็คือ แล้วเราจะแยกเหรียญมีมที่มีแนวโน้มประสบความสำเร็จจากที่มีอยู่ทั้งหมดในตลาดได้อย่างไร
อุดมศักดิ์เผยว่า มี 3 ปัจจัยสำหรับนักลงทุนที่ควรใช้พิจารณาโปรเจกต์เหรียญมีมดังนี้
- สภาพคล่อง หรือ Liquidity ซึ่งเป็นปัจจัยที่บ่งชี้ว่าเหรียญมีปริมาณการซื้อขายและการทำธุรกรรมที่เพียงพอหรือไม่
- เรื่องราว หรือ Story ที่เป็นเหมือนสิ่งยึดเหนี่ยวของชุมชน เหมือนกับที่ Ray กล่าวไว้บนเวทีว่า “หนึ่งในธรรมชาติของมนุษย์คือความต้องการที่จะมีความเชื่อในบางสิ่งบางอย่างเสมอ”
- การกระจายตัว หรือ Distribution ที่จะเป็นตัวกำหนดว่าเหรียญสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานและนักลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม ความยั่งยืนของเหรียญมีมยังคงเป็นความท้าทาย เนื่องจากเหรียญประเภทนี้มักพึ่งพา ‘กระแส’ อาจไม่สามารถคงอยู่เป็นระยะเวลานานได้ สภาพคล่องก็มักจะไหลไปตามเหรียญอื่นที่กำลังเป็นที่นิยม ณ เวลานั้นๆ เช่น MELANIA เหรียญมีมที่เปิดตัวโดยสตรีหมายเลข 1 อย่าง Melania Trump ที่เหรียญของเธอสูญมูลค่าไปแล้วกว่า 81%
ความผันผวนของตลาดเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ฉะนั้นการ DYOR: Do Your Own Research และการซื้อขายแลกเปลี่ยนบนแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือจะเป็นการคุ้มครองผู้ลงทุนได้ในระดับหนึ่ง
แต่ Ray ยังยืนยันจากมุมมองของเขาว่า “แม้เหรียญมีมบางตัวอาจล้มหายไป แต่ประเภทของเหรียญมีมในภาพรวมจะอยู่ตลอดไป”
บทบาทของเหรียญมีมในโลกการเงินอนาคต
ท่ามกลางความไม่แน่นอน เหรียญมีมยังคงเดินหน้าพัฒนาต่อไปด้วยแรงผลักดันจากพลังของคอมมูนิตี้ โดยธุรกิจอย่าง Memeland เริ่มหาวิธีการผนวกเหรียญมีมเข้ากับระบบการชำระเงินอย่าง MemePay ซึ่งถือเป็นสัญญาณของความเปลี่ยนแปลงจากเหรียญที่เน้นความตลกไปสู่เหรียญที่จะเกิดการใช้งานจริง
ทั้งนี้ อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เหรียญมีมจะยังเติบโตและมีพัฒนาการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นได้แน่ แต่คำถามคือเติบโตต่อไปแบบไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ เหรียญมีมให้พื้นที่และคุณค่าที่สินทรัพย์การลงทุนอื่นทำไม่ได้ นั่นคือการหลอมรวมพลังของการรับรู้ถึงการมีอยู่ของสกุลเงินดิจิทัลในวงกว้าง ผสานความตลก โลกการเงิน และพลังของคอมมูนิตี้เข้าไว้ด้วยกันในแบบโลกเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาข้อมูลและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้