วานนี้ (24 เมษายน) สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (CAP) จัดกิจกรรม Melayu Raya 2023 ปีที่ 2 โดยมีเยาวชนหลักหมื่นรายจากในพื้นที่ 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เดินทางเข้าร่วมงานที่หาดวาสุกรี อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ซึ่งในวันนี้ถือเป็นวันที่สามหลังจากวันตรุษอีดิลฟิตรี
บรรยากาศภายในงาน เยาวชนได้ร่วมกันแสดงอัตลักษณ์มลายูผ่านการแต่งกายด้วยชุดมลายูสีต่างๆ ภายใต้คอนเซปต์ชุดมลายูปีนี้ ‘Damai Bermoral’ ซึ่งหมายความว่า ‘สันติอย่างมีอารยะ’ พร้อมกับชูธงด้วยตราสัญลักษณ์ต่างๆ ของกลุ่ม
สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบไปด้วย การกล่าวปาฐกถาโดยรักษาการประธานสมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพและกองเลขาธิการ การเปิดให้ตัวแทนเยาวชนในแต่ละพื้นที่ของจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส แนะนำตัว การกล่าวสัตยาบันพร้อมสัญลักษณ์แสดงความเคารพ และร่วมกันขับร้องเพลง Ayuhai Pemuda
โดยการจัดงานในปีนี้ คณะผู้จัดงานมีความเข้มงวดมากขึ้น บริเวณด้านหน้าทางเข้ามีการติดป้ายประกาศห้ามนำธงที่มีลักษณะสุ่มเสี่ยงที่อาจกระทบต่อความมั่นคงเข้าร่วมงาน ยกเว้นธงประจำหมู่บ้าน ชมรม หรือกลุ่ม เข้าภายในได้ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคง ห้ามนำอาวุธเข้ามาภายในงาน และต้องตระหนักถึงความหลากหลายและการอยู่ร่วมกัน
มูฮำหมัดอาลาดี เด็งนิ อดีตประธานสมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (CAP) และประธานมูลนิธินูซันตาราเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (Nusantara) กล่าวว่า ทางเรามีการรณรงค์ใส่ชุดมลายูมาหลายปีแล้ว และ 2-3 ปีที่ผ่านมามีการรวมตัวในที่ต่างๆ ต้องยอมรับว่าการแต่งกายชุดมลายูเกือบจะหายไปจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราไม่อยากให้ผู้คนหลงลืม เราอยากให้เยาวชนรู้สึกภูมิใจ
มูฮำหมัดอาลาดีกล่าวต่อไปว่า ก่อนการจัดงานได้พูดคุยกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ( กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ทำให้การวางกฎระเบียบมีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากปีที่ผ่านมาทางหน่วยงานได้ตั้งคำถามถึงการรวมตัวของเยาวชน ทั้งสองฝ่ายจึงพยายามเจรจาหาทางออกจนได้ข้อตกลงร่วมกัน