วันนี้ (25 กันยายน) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ครั้งที่ 3/2567 โดยมีผู้แทนหน่วยงานราชการในพระองค์, พล.อ.ท. ภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ คุณหญิงจันทนี ธนรักษ์ ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีแจ้งต่อที่ประชุมถึงการรายงานการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ในห้วงเวลาที่ผ่านมาว่า รัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ทั้งในส่วนของการจัดพิธีการและการจัดโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ดำเนินการไปได้อย่างเรียบร้อยสมพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ สำหรับการประชุมในวันนี้ เป็นการรับทราบผลการดำเนินงานและติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ และพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมตามระเบียบวาระต่อไป
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณ พล.อ.ท. ภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ให้เกียรติมาร่วมการประชุมในวันนี้ และหากมีข้อแนะนำประการใด ขอให้นำเสนอรายละเอียดให้ทราบ
จากนั้นที่ประชุมได้รับทราบรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานของคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ และเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินงานในส่วนของคณะกรรมฝ่ายจัดพิธีการฯ มีการเตรียมความพร้อมการจัดพระราชพิธีและพิธีเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ตามหมายกำหนดการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ได้แก่
- พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2567 เวลา 15.00 น. ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
- พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จังหวัดสระบุรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จังหวัดสระบุรี ในวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 เวลา 17.00 น.
- พิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณของทหารรักษาพระองค์ พุทธศักราช 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินในพิธีฯ ในวันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2567 เวลา 17.00 น. ณ พระลานพระราชวังดุสิต
สำหรับการเตรียมการจัดพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้กำหนดแนวทางการจัดผู้เฝ้าฯ รับเสด็จในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ดังนี้
- บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 8 สวนหลวงพระราม 8 โดยมีผู้เฝ้าฯ รับเสด็จจำนวนประมาณ 1,800 คน ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส, คณะทูตานุทูตและกงสุลต่างประเทศประจำประเทศไทย, ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศในประเทศไทยพร้อมคู่สมรส, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา, ข้าราชการตุลาการ, ข้าราชการทหารและตำรวจ รวมทั้งข้าราชการพลเรือนและภาคีเครือข่ายภาคเอกชน
- บริเวณสวนสันติชัยปราการจำนวน 2,000 คน ประกอบด้วย ประธานองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส, ประธานองค์กรอิสระพร้อมคู่สมรส, ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, ข้าราชการกรุงเทพมหานคร และประชาชน (กรุงเทพมหานครรับผิดชอบการจัดผู้เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ บริเวณสวนสันติชัยปราการ)
ทั้งนี้ จากการรายงานความคืบหน้าการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคของผู้แทนกองทัพเรือในห้วงที่ผ่านมาเป็นไปตามแผนงานที่กำหนด ทั้งในด้านกำลังพลและการฝึกต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ปัจจุบันเป็นการดำเนินการในขั้นตอนฝึกซ้อมจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย การซ้อมย่อย 7 ครั้ง และซ้อมใหญ่ 2 ครั้ง มีการดำเนินการฝึกตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา มีการดำเนินการแล้ว 7 ครั้ง เป็นไปอย่างเรียบร้อยและสง่างาม โดยในวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางไปตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคและเตรียมการตรวจพื้นที่การรับเสด็จ ณ ท่าวาสุกรี ซึ่งผลการปฏิบัติเป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยกองทัพเรือมีความพร้อมในการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในการพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2567 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สง่างาม และสมพระเกียรติ
ขณะเดียวกันกรมประชาสัมพันธ์มีการเตรียมความพร้อมการถ่ายทอดสดพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2567 รวมทั้งพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณของทหารรักษาพระองค์ ณ พระลานพระราชวังดุสิต วันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2567 และพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้รับชมและรับฟัง เพื่อร่วมกันแสดงถึงความจงรักภักดีและความสามัคคีของปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลนี้ด้วย
“รัฐบาลขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้รายงานความคืบหน้าใน 10 โครงการของรัฐบาล รวมทั้งโครงการอื่นๆ ที่เข้าร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ และการร่วมกิจกรรมกับพี่น้องประชาชน โดยโครงการต่างๆ นั้นส่วนมากแล้วเสร็จสมบูรณ์ไปกว่า 70% ส่วนที่เหลือยังจะดำเนินการต่อไปจนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่ออีกว่า มีโครงการสำคัญที่จะเกิดขึ้นภายในช่วงสิ้นปีนี้ เช่น ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การยกระดับสวนสาธารณะบึงหนองบอน และการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากประเทศจีน
สุดท้ายนี้ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน, องค์กร, มูลนิธิ และภาคเอกชนต่างๆ ร่วมกันแสดงถึงความจงรักภักดีและความสามัคคีของปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย