ปัจจุบัน ‘ผลิตภัณฑ์กัญชา’ หรือสารสกัดจากกัญชา เช่น สเปรย์พ่นในช่องปาก น้ำมันหยดใต้ลิ้น ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์มากขึ้น แต่จากการทบทวนงานวิจัยของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่ามีเพียง 6 ภาวะ/โรคเท่านั้นที่มีงานวิจัยสนับสนุนชัดเจน ส่วนโรคอื่นๆ ยังต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมในประเด็นความปลอดภัย ประสิทธิผล และการวิจัยในระดับหลอดทดลองหรือสัตว์ทดลองก่อน
เอกสารคำแนะนำการใช้ ‘กัญชาทางการแพทย์’ ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4 (มกราคม 2564) ของกรมการแพทย์ แบ่งภาวะ/โรคออกเป็น 3 กลุ่มตามข้อมูลงานวิจัย ได้แก่ มีประโยชน์ น่าจะมีประโยชน์ และอาจได้ประโยชน์ ดังนั้นประชาชนทั่วไปจึงควรทราบว่าผลิตภัณฑ์จากกัญชาเป็นทางเลือกในการรักษาโรคใดได้บ้าง เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการรักษาด้วยวิธีมาตรฐาน
ข้อตกลงเบื้องต้น
อย่างแรกกรมการแพทย์ไม่ได้แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาในการรักษา/ควบคุมอาการของผู้ป่วยเป็นการรักษาลำดับแรก (First-Line Therapy) โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนจาก อย. หมายความว่าผู้ป่วยควรรักษาด้วยวิธีมาตรฐานก่อน หากไม่ได้ผลถึงจะใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาเป็นลำดับรองลงมา ยกเว้นในกรณีที่เป็นความประสงค์ของผู้ป่วยและครอบครัวตามสิทธิขั้นพื้นฐาน
ผลิตภัณฑ์กัญชาได้ประโยชน์
ภาวะ/โรคที่มีงานวิจัยสนับสนุนชัดเจน ได้แก่
- ภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบําบัด
- ภาวะเบื่ออาหารในผู้ป่วยเอดส์ที่มีน้ำหนักตัวน้อย
- ภาวะปวดประสาท (Neuropathic Pain)
- ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง (Spasticity) ในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis)
- โรคลมชักที่รักษายากหรือดื้อต่อยารักษา (Intractable Epilepsy)
- ผู้ป่วยที่รักษาแบบประคับประคอง/ระยะสุดท้ายของชีวิต เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต
ผลิตภัณฑ์กัญชาน่าจะได้ประโยชน์
โรคที่มีงานวิจัยสนับสนุนจำกัด สามารถใช้ผลิตภัณฑ์กัญชารักษาผู้ป่วยเฉพาะรายและเก็บข้อมูลวิจัยควบคู่กัน ได้แก่
- โรคพาร์กินสัน
- โรคอัลไซเมอร์
- โรควิตกกังวลทั่วไป (Generalized Anxiety Disorders)
- โรคปลอกประสาทอักเสบ (Demyelinating Diseases)
ผลิตภัณฑ์กัญชาอาจได้ประโยชน์ (ในอนาคต)
ปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งด้วยผลิตภัณฑ์กัญชายังไม่มีงานวิจัยเพียงพอ ต้องวิจัยเพิ่มเติมในระดับหลอดทดลองและสัตว์ทดลองก่อนจะนำมาใช้ในคน หากนำมาใช้เป็นการรักษาลำดับแรกอาจทำให้ผู้ป่วยเสียโอกาสในการรักษามะเร็งที่มีประสิทธิผลด้วยวิธีมาตรฐานได้ นอกจากนี้ยังมีโรคความจำเสื่อม (Dementia) และอาการนอนไม่หลับจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) ซึ่งยังมีข้อมูลน้อยมาก
โดยสรุปผลิตภัณฑ์กัญชามีประโยชน์ในทางการแพทย์ แต่ไม่ใช่สารพัดประโยชน์หรือเป็นยาครอบจักรวาล อีกทั้งหากใช้ไม่เหมาะสมยังเกิดโทษ เช่น ผลข้างเคียง และภาวะพิษจากกัญชาได้ ผู้ป่วยที่ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล และปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจใช้
ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร
อ้างอิง:
- คำแนะนำการใช้กัญชาทางการแพทย์ ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4 (มกราคม 2564) https://mnfda.fda.moph.go.th/narcotic/wp-content/uploads/2021/04/Guidance-Updated-v-update-V.4260464.pdf
- คำแนะนำสำหรับแพทย์ การใช้กัญชาทางการแพทย์ https://tmc.or.th/pdf/fact/guideline_cannabis_101062.pdf