×

ดีอีเอสสั่งฟ้องโซเชียลและนักข่าวเผยแพร่ข่าวเท็จ สาวอุดรธานีแพ้วัคซีนป้องกันโควิด-19

โดย THE STANDARD TEAM
12.05.2021
  • LOADING...
ดีอีเอสสั่งฟ้องโซเชียลและนักข่าวเผยแพร่ข่าวเท็จ สาวอุดรธานีแพ้วัคซีนป้องกันโควิด-19

วันนี้ (12 พฤษภาคม) ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า กรณีสาวจังหวัดอุดรธานีอ้างว่าแพ้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้รับรายงานจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center) รวมทั้งมีผู้ร้องเรียนเข้ามายังกระทรวงดีอีเอส จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบตั้งแต่ต้น พบว่าต้นตอของข่าวดังกล่าวมาจากผู้ใช้ Facebook และ Twitter รวม 3 ราย ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 รวมทั้งกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง 

 

โดยได้มอบหมายให้ผู้แทนกระทรวงดีอีเอสเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีต่อผู้ใช้ Facebook ชื่อ Wadfhan Niphawan, กะทิ จ้า และผู้ใช้บัญชี Twitter ชื่อ @tuykallaya เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมาแล้ว แม้จะทราบว่าทั้งสามรายได้ลบโพสต์ออกไป และบางรายก็ได้โพสต์ขอโทษไปแล้ว แต่ก็จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้เป็นกรณีศึกษาสำหรับผู้ที่จะโพสต์หรือเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศกำลังต่อสู้กับโควิด-19 ที่เป็นเรื่องความเป็นความตาย

 

“รัฐบาลได้ยกระดับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นวาระแห่งชาติ ตลอดจนหลายภาคส่วนออกมาร่วมรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีน แต่ก็ยังมีขบวนการที่พยายามดิสเครดิต สร้างความตื่นตระหนกให้กับสังคม จึงต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด” ชัยวุฒิระบุ

 

ชัยวุฒิเปิดเผยด้วยว่า ตนได้ตรวจสอบบัญชีผู้ใช้ Facebook ชื่อ กะทิ จ้า ซึ่งพบว่าประกอบอาชีพสื่อมวลชน มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการข่าวเช้า สำนักข่าว Thai PBS ซึ่งที่ผ่านมามีการวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่สื่อมวลชนของสำนักข่าว Thai PBS ว่ามีการนำเสนอข่าวผิดพลาดอย่างน้อย 2 ครั้ง

 

  1. เมื่อวันที่ 24 เมษายน นำเสนอข่าวชาวอินเดียเช่าเครื่องบินเหมาลำมายังประเทศไทยเมื่อช่วงกลางเดือนเมษายน

 

  1. เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม กรณีข่าวประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีต่อโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ ที่เป็นเพียงการคาดการณ์ ซึ่งเป็นการนำเสนอข่าวคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงในระยะเวลาไล่เลี่ยกันอย่างผิดสังเกต และยังมีคนระดับบรรณาธิการมาโพสต์ข้อมูล ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนอีก

 

ทั้งนี้ ในช่วงเวลา 1 เดือน สำนักข่าว Thai PBS นำเสนอข่าวผิดถึง 2 ครั้ง และมีพนักงานนำ Fake News มาเผยแพร่ จนสื่อมวลชนสำนักอื่นนำข้อมูลดังกล่าวไปผลิตซ้ำ รวมแล้วเกิด Fake News ที่มีจุดเริ่มต้นจากสำนักข่าว Thai PBS จำนวน 3 ครั้ง จนทำให้ประชาชนเกิดความแตกตื่น แม้เป็นสื่อมวลชน หากกระทำผิดก็ไม่ละเว้น ยิ่งต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพราะสื่อมวลชนควรมีความรับผิดชอบต่อสังคมที่สูงกว่าคนทั่วไป ต้องมีภูมิคุ้มกันที่สูงกว่า และเป็นผู้เสริมภูมิคุ้มกันในการเสพข่าวทางสังคมออนไลน์ให้กับประชาชน เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วต้องมีการตรวจสอบข้อมูลก่อนการนำเสนอ ไม่ควรปล่อยให้มีการออกข่าวผิดพลาดและบ่อยครั้ง จนมีคำถามถึงเจตนาที่แท้จริงของสำนักงานแห่งนี้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสื่อสาธารณะ

 

“แม้ที่ผ่านมาสำนักข่าว Thai PBS จะออกมาขอโทษที่นำเสนอข้อมูลคลาดเคลื่อน แต่ได้สร้างความสับสนและสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย ผมจึงจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะการกระทำผิด 3 ครั้ง ภายใน 1 เดือน เป็นวิสัยที่ผิดปกติ และผมเกรงว่าหากไม่มีการดำเนินการตามกฎหมายจะมีการกระทำผิดครั้งต่อไปเกิดขึ้นอีก” ชัยวุฒิกล่าว

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X