Disney ปลุกปั้นค่าย MCU ให้ฟื้นคืนชีพ! จากความสำเร็จของ Deadpool & Wolverine กวาดรายได้ทั่วโลกทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์ ราว 35,000 ล้านบาท แซงหน้าภาคแรกถึง 56% พร้อมทำลายแชมป์สถิติหนังเรต R อย่าง Joker ไปแล้ว
เรียกได้ว่า Deadpool & Wolverine เป็นภาพยนตร์ในค่าย Marvel Cinematic Universe ซึ่งบริหารโดย Disney และเป็นหนังเรต R เรื่องแรก ที่สามารถล้มแชมป์ภาพยนตร์ Joker ซึ่งอยู่ในกลุ่มหนังเรต R เหมือนกันได้อย่างแยบยล โดย Joker เข้าโรงภาพยนตร์ในปี 2019 ทำรายได้ไป 1,078 ล้านดอลลาร์
และนับเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของ Disney ที่ทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านทั่วโลกในปีนี้ รองจาก Inside Out 2 ของ Pixar ที่ทำรายได้กว่า 1,500 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Deadpool & Wolverine บุกฉายจีน! งัดกลยุทธ์สุดครีเอทีฟ แปลงโฉมมนุษย์ปากเสีย สู่หนังฮอลลีวูดเรต R เรื่องแรกในแดนมังกร
- ธุรกิจสตรีมมิงช่วยดันรายได้ Disney ไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 17% ฟากสวนสนุกและการผลิตรายการยังทรงตัว จนฉุดราคาหุ้นร่วง 10%
- Inside Out 2 ขึ้นแท่นภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดของปี กวาดรายได้ 1.5 หมื่นล้านบาท
แต่สำหรับ Deadpool & Wolverine นั้นเพิ่งเข้าฉายได้ไม่นานก็ทำรายได้ระดับ 1,029 ล้านดอลลาร์ไปแล้ว และยังมีแนวโน้มทำรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้วยการดำเนินเนื้อเรื่องที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะประเด็นความหลากหลายทางเพศที่แทรกอยู่ในภาพยนตร์ จนได้รับการยอมรับของฐานคนดูอย่างมาก
หัวใจสำคัญของความสำเร็จส่วนหนึ่งก็มาจากฝีมือนักแสดงนำ ทั้ง ไรอัน เรย์โนลด์ส รับบทเป็น เวด วิลสัน หรือเดดพูล และ ฮิว แจ็คแมน รับบทเป็น เจมส์ โลแกน ฮาวเล็ตต์ หรือวูล์ฟเวอรีน ทั้งคู่เป็นคู่หูที่สวมบททั้งแกร่ง ทั้งเกรียน แถมทีมการตลาดโปรโมตภาพยนตร์ด้วยการแชร์ภาพถังป๊อปคอร์นบนสื่อโซเชียลจนเป็นไวรัลที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์
พอล เดอร์การาเบเดียน นักวิเคราะห์สื่ออาวุโสของ Comscore กล่าวว่า Deadpool & Wolverine หนังซูเปอร์ฮีโร่ของค่าย Marvel จะช่วยผลักดันให้ Disney มีการเติบโตขึ้นหลังจากช่วงโควิดโตได้ค่อนข้างช้า
ด้านนักวิเคราะห์ในวงการภาพยนตร์คาดการณ์ว่า Deadpool & Wolverine จะไม่ใช่ภาพยนตร์เรื่องเดียวที่สำเร็จในปีนี้ แต่ยังมี Moana 2 ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2024 ที่อาจสร้างรายได้ทะลุหลัก 1,000 ล้านดอลลาร์เช่นกัน
ถึงกระนั้นความสำเร็จของภาพยนตร์ส่วนหนึ่งก็มาจากแผนงานของ Disney ที่ตั้งใจปลุกปั้นภาพยนตร์ในค่าย MCU ให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ หลังจากปี 2023 ภาพยนตร์ในค่าย MUT เผชิญปัญหาอยู่ในช่วงขาลง เห็นได้ชัดจากหลังเปิดตัว The Marvels ในอเมริกาที่ทำรายได้เพียง 47 ล้านดอลลาร์ ราว 1,700 ล้านบาท ต่ำสุดในบรรดาภาพยนตร์ทั้งหมดในค่าย
เมื่อมาดูทิศทางของ Disney ที่เตรียมเปิดตัวภาพยนตร์ภาคต่อ เริ่มตั้งแต่แอนิเมชัน Toy Story 5, Zootopia 2, Frozen III และ Incredibles 3 รวมถึง Captain America: Brave New World, Thunderbolts, The Fantastic 4: First Steps, Blade, Avengers: Doomsday และ Avengers: Secret Wars
แสดงให้เห็นว่า Disney ให้ความสำคัญกับภาพยนตร์ภาคต่ออย่างมาก เพราะแต่ละเรื่องการันตีในแง่ของรายได้ระดับพันล้านมาแล้ว เช่น Toy Story ทำรายได้ทั่วโลก 3,200 ล้านดอลลาร์ ตามด้วย Frozen ทำรายได้ทั่วโลกทะลุ 2,700 ล้านดอลลาร์ รวมถึง Incredibles และ Zootopia ที่ทำรายได้ทั่วโลกมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา Marvel Cinematic Universe เป็นค่ายภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ด้วยมูลค่าถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์ทั่วโลก โดยผลงานที่สร้างประวัติศาสตร์ก็คือ Star Wars ที่สร้างยอดได้มากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ตั้งแต่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในปี 1977
อ้างอิง:
