การระบาดของโควิด-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทุกธุรกิจ ไม่เว้นแม้แต่ ‘ธุรกิจอาหาร’ ที่ถึงจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ แต่ก็ได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังเช่น McDonald’s ที่ได้ออกมารายงานว่า ยอดขายทั่วโลกหล่นวูบถึง 22.2% ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2020 สิ้นสุดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ยอดขายสาขาเดิมในสหรัฐอเมริกาของ McDonald’s เพิ่มขึ้น 8.1% แต่ด้วยตัวเลขที่ลดลง 13% ในเดือนมีนาคม จึงคาดว่า ยอดขายของสาขาเดิมในไตรมาสแรกของแดนลุงแซมจะเติบโตประมาณ 0.1% โดยก่อนหน้านี้ McDonald’s ได้ปรับแผนการให้บริการด้วยการงดนั่งทานในร้าน ให้ซื้อกลับบ้าน เดลิเวอรีและไดรฟ์-ทรู
ส่วนตลาดต่างประเทศของ McDonald’s ได้รับผลกระทบจากการระบาดครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และสหราชอาณาจักร มียอดขายสาขาเดิมลดลง 34.7% ในเดือนมีนาคม ส่วนจีน ญี่ปุ่น และบราซิล ยอดดีกว่าเล็กน้อย มียอดขายสาขาเดิมลดลง 19.4%
หนึ่งในเชนร้านฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่ของโลกประเมินว่า ยอดขายสาขาเดิมทั่วโลกลดลง 3.4% ในไตรมาสแรก โดยมีร้านเพียง 75% จากทั้งหมด 38,000 ร้านทั่วโลก ที่เปิดอยู่ นั่นหมายความว่า ที่เหลือต้องถูกปิดลงชั่วคราวเพราะโควิด-19
McDonald’s ได้ยกเลิกการประเมินภาพรวมของธุรกิจในปี 2020 รวมไปถึงคาดการณ์ในระยะยาว โดยอ้างความไม่แน่นอนจากการระบาดของโควิด-19 ก่อนหน้านี้ McDonald’s คาดว่า กำไรจะเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว และยอดขายจะเติบโตในระดับ 3-5%
เพื่อรับมือกับสภาพธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป McDonald’s คาดว่า จะใช้เงินลงทุนประมาณ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2020 ลดลงจากเดิมที่ตั้งไว้ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมีการปรับปรุงร้านใหม่ที่น้อยลงในสหรัฐอเมริกา และการเปิดร้านอาหารใหม่น้อยลงทั่วโลก
“นี่เป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และกำลังเปลี่ยนแปลงโลกที่เราอาศัยอยู่ ดังนั้น เราจะต้องเตรียมตัวและวางแผนปรับตัวให้พร้อมกับสถานการณ์หลังจากนี้” คริส เคมป์ซินสกี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร McDonald’s กล่าว
ขณะเดียวกันแม่ทัพของ McDonald’s ระบุว่า ตัวเขาจะลดเงินเดือนลง 50% อย่างน้อยถึงวันที่ 30 กันยายนนี้ และมีผู้บริหารอีก 4 คน ที่วางแผนลดเงินเดือน 25% ในช่วงเวลาเดียวกันด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
