จากนี้จะเห็นรถ Mobile Truck ของ ‘แม็คยีนส์’ วิ่งเข้าไปจำหน่ายสินค้าใกล้บ้านมากขึ้น ชูสินค้าคอลเล็กชันใหม่ๆ พร้อมโปรโมชันและประสบการณ์ใหม่ๆ หวังสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
“ตอนนี้รถจัดจำหน่ายเคลื่อนที่มีทั้งหมด 6 คัน เบื้องต้นจะเดินสายไปทั่วประเทศ ซึ่งเราไม่ได้หวังยอดขาย แต่ต้องการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และขณะเดียวกันเราก็จะได้ศึกษาพื้นที่ต่างๆ ว่าทราฟฟิกมีมากน้อยแค่ไหน” เจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC Group กล่าว
พร้อมกล่าวต่อไปว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเราต้องเผชิญปัญหาเรื่องยอดขายตก กำไรไม่ค่อยดี เราจึงพยายามพลิกฟื้นรายได้ให้กลับมาเติบโต ด้วยการปรับกลยุทธ์สร้างแบรนด์ยีนส์ให้ใส่ได้หลากหลายไลฟ์สไตล์ พร้อมกับการออกคอลเล็กชันใหม่ ปรับหน้าร้านเพิ่มประสบการณ์ให้แตกต่าง ทุกอย่างโฟกัส Short-Term จนทำให้ช่วง 9 เดือนแรก ปี 2566 ทำกำไรสุทธิโตกว่า 22%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ซีอีโอใหม่ MC Group ออกแผน 3 ปี ปรับโครงสร้าง – Turn Around – ขยายตลาดต่างประเทศ
- ส่องราคา ‘Levi’s 501’ มูลค่าความคลาสสิกของยีนส์ระดับตำนาน บางตัวทะลุ 3 ล้านบาท
- เทคนิคสำหรับผู้ชายในการเลือกกางเกงยีนส์ที่สมบูรณ์แบบ
กระทั่งปัจจุบันทุกอย่างเริ่มปรับตัวดีขึ้นและมีโอกาสที่ดี ก้าวต่อไปต่อจากนี้ของ MC Group จะเคลื่อนทัพด้วยกลยุทธ์สร้างพอร์ตโฟลิโอสินค้าให้หลากหลายมากขึ้น ทั้งกลุ่มยีนส์และสินค้าที่ไม่ใช่ยีนส์ ทั้งของผู้ชายและผู้หญิง พร้อมนำแบรนด์กางเกงยีนส์ Mc3109 ในตำนานกลับมาเล่าใหม่อีกครั้ง
โดยได้เลือก อนันดา เอเวอริงแฮม ขึ้นมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์หลัก เพราะมีไลฟ์สไตล์ที่ตรงกับความเป็นแม็คยีนส์ และตรงกับสโลแกน ‘MY MC MY WAY ชีวิต…เต็มแม็ค’ ซึ่งกิจกรรมต่างๆ อยู่ในงบการตลาดกว่า 65 ล้านบาท
โดยส่วนใหญ่จะใช้โปรโมตยีนส์ทรงขากระบอกเล็กในคอลเล็กชันใหม่ที่กลับมาให้เลือกถึง 5 เฉดสี ที่สำคัญยังมาพร้อมส่วนประกอบของวัสดุเพื่อความยั่งยืน เช่น กระดุมและรีเวตที่ใช้กรรมวิธีทำสีที่กำจัดมลพิษอันตราย และลดการใช้สารเคมี และผ้าเทปซิป ที่ใช้วัสดุจากขวดพลาสติกและเศษผ้าที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิลมาทอขึ้นใหม่
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจในปี 2566 ทั้งปีคือ จะเห็นแม็คยีนส์เปิดตัวคอลเล็กชันใหม่ๆ โดยการออกสินค้าใหม่แต่ละครั้งจะใช้เวลา 4-5 เดือน และสินค้าใหม่นั้นได้พัฒนาจากอินไซต์ผู้บริโภคที่บริษัทได้เข้าไปเก็บข้อมูล และยังพบว่าหลายๆ คนยังไม่เคยลองใช้แม็คยีนส์ และอีกกลุ่มก็เลือกซื้อเพราะราคาเข้าถึงง่าย
และที่น่าจับตามองในปีนี้คือ แม็คยีนส์จะมีการคอลแลบกับแบรนด์ที่อยู่ในไทยมากกว่า 50 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการพูดคุย อาจได้เห็นเร็วๆ นี้ และมั่นใจว่าจะมีความน่าสนใจมากเลยทีเดียว
ประพัฒน์ เสียงจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจและการขาย บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงงบประมาณในการลงทุนที่เตรียมไว้ 100 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการเปิดสาขาใหม่ 40 แห่ง ทั้งในศูนย์การค้าและสถานีบริการน้ำมัน ควบคู่กับการรีโนเวตสาขาเดิม รวมถึงการปรับระบบ CRM และระบบ IT หลังบ้าน
พร้อมกับเตรียมปรับปรุงหน้าร้านที่มีอยู่ทั้งหมด 600 สาขาทั่วประเทศ ให้น่าเดินมากขึ้น ที่สำคัญจะมีสินค้าเต็มเชลฟ์ มีบริการตัดขากางเกง และพนักงานขายจะบริการดี เป็นกันเอง ซึ่งจะเป็นหัวใจหลักให้กับร้านแม็คยีนส์ ที่จะเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า โดยปัจจุบันแม็คยีนส์มีสมาชิกกว่า 1.2 ล้านคน ในการซื้อต่อบิลเฉลี่ยอยู่ที่ 1,600 ขึ้นไป และซื้อเฉลี่ย 3-6 ครั้งต่อปีต่อคน
ทั้งนี้ ในส่วนของผลประกอบการในปี 2567 ตั้งเป้าสร้างการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก หลังจากงวด 9 เดือนของบัญชีปี 2566 มีรายได้ 2,832 ล้านบาท กำไร 525 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุด ถ้าเทียบกับปี 2565 โดยยอดขายเพิ่มขึ้นทุกช่องทางการจัดจำหน่าย ทั้งช่องทางร้านค้าปลีกของตนเองที่เป็นช่องทางหลัก มีสัดส่วนประมาณ 65%, ห้างสรรพสินค้ามีสัดส่วน 22% และร้านค้าออนไลน์ (E-Commerce) มีสัดส่วน 9%