ที่ห้องจารุพงษ์ ทองสินธุ์ ตึกกิจกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย นำโดยนายรังสิมันต์ โรม พร้อมด้วยนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์,นายกาณฑ์ พงษ์ประพันธ์, นายอานนท์ นำภา,นางสาวณัฏฐา มหัทธนา และนายสุกฤษณ์ เพียรสุวรรณ จัดแถลงข่าวกรณี คสช. แจ้งความดำเนินคดีกับผู้เข้าร่วมกิจกรรมคนอยากเลือกตั้งเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา
นางสาวณัฏฐา มหัทธนา หนึ่งในแกนนำที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการถูกดำเนินคดีของกลุ่ม MBK 39 ว่าแม้ว่าศาลจะมีคำสั่งไม่ให้เหล่าแกนนำต้องถูกฝากขังระหว่างการดำเนินคดี แต่คดีดังกล่าวยังไม่สิ้นสุด ทั้งคดีใน ม.116 การยุยงปลุกปั่น/ความผิดการชุมนุมใกล้เขตพระราชฐาน และความผิดในการขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่3/2558 ในการห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน
โดยยืนยันว่าในวันที่ 10 ก.พ. ทางกลุ่มได้มีการแจ้งการชุมนุมกับ สน.สำราญราษฎร์ภายใน 24 ชั่วโมง ก่อนจะจัดชุมนุมแล้ว พร้อมมองว่าตั้งข้อหาใน ม.116 ไม่สมเหตุผลและละเมิดสิทธิพลเมือง เพราะการปราศรัยเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ไม่ได้ยุยงปลุกปั่นเข้าข่ายความผิดตาม ม.116 แต่อย่างใด และยืนยันว่าทางกลุ่มไม่ได้ชุมนุมใกล้เขตพระราชฐานเกิน 150 เมตรตามกรอบที่กฎหมายกำหนด
ขณะที่กรณีคำสั่ง คสช. มองว่าคำสั่งดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญตั้งแต่แรกอยู่แล้ว จึงไม่มีความชอบธรรมและไม่อาจนำมาบังคับใช้ได้
ส่วนที่มองว่าการรวมตัวชุมนุมเป็นการละเมิดสิทธิคนอื่นที่ไม่ได้ต้องการเข้าร่วม ขอย้ำการชุมนุมเป็นช่องทางสำหรับพลเมืองเพื่อแสดงออก สำหรับกรณีที่สังคมไม่เปิดให้แสดงออก เพราะขณะนี้ไม่มีฝ่ายค้านในการตรวจสอบหากมีการไม่เห็นด้วย
ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม เชื่อว่า วันนี้ไม่มีหนทางอื่นที่จะเกิดการเลือกตั้ง นอกจากประชาชนจะออกมาแสดงพลังร่วมกัน เพราะตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ตนเคยไปร้องหลายที่ โพสต์เฟซบุ๊กหลายครั้ง แต่ผู้อยู่บนอำนาจก็ยังสืบทอดอำนาจ ซึ่งวิธีการเดียวที่ทำได้นี้จะทำให้ คสช. ตระหนักว่า ใครคือผู้มีอำนาจที่แท้จริง
โดยวันที่ 18 ก.พ.นี้ ทางกลุ่มจะเดินทางไปที่ลานย่าโม จังหวัดนครราชสีมา เวลา 17.00 น. และวันที่ 24 ก.พ. จะจัดกิจกรรมที่หน้าหอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป พร้อมทั้งมีการวางโรดแมปไว้ในวันที่ 19-22 พ.ค. ว่าจะมีการชุมนุมติดต่อกันแบบค้างคืน จนกว่าจะได้อำนาจคืน และจะให้เดือน พ.ค. เป็นเดือนที่ทำให้คนไทยตระหนักถึงการเลือกตั้งเพราะครบรอบ 4 ปีในการทำรัฐประหาร
ทั้งนี้ยืนยันไม่ได้ทำเพราะเรื่องของสีเสื้อ และขออย่านำเรื่องดังกล่าวมาดิสเครดิต ซึ่งยอมรับว่าประเทศไทยมีความขัดแย้งทางการเมือง แต่ไม่ควรส่งต่อความขัดแย้งไปสู่ประชาชนรุ่นใหม่
นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ ยังได้ขอเชิญชวนนักการเมืองกลุ่มต่างๆ ทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคเพื่อไทย, นายเฉลิม อยู่บำรุง และกลุ่มต่างๆ มาร่วมในการเรียกร้องครั้งนี้ด้วย