วันนี้ (3 ก.ค.) ที่รัฐสภาชั่วคราว อาคารทีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 1 ครั้งที่ 8
โดยช่วงหนึ่ง จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. เขตคลองสามวา กทม. พรรคเพื่อไทย ยื่นญัตติด่วนตั้งกระทู้ถามสดเรื่องมาตรการในการป้องกันเหตุและติดตามจับกุมดำเนินคดีผู้ที่ทำร้ายนักกิจกรรมทางการเมือง
จิรายุกล่าวว่า “จริงๆ อยากจะถาม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะบ้านท่านอยู่ในพื้นที่ผม โดยอยู่ไม่ห่างจากบ้านของ จ่านิว-สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักกิจกรรมที่ถูกรุมทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส
“สาระสำคัญคืออยากจะใช้เสื้อของจ่านิวในวันที่ถูกทำร้าย แต่ประธานสภาฯ ไม่อนุญาต”
ขณะที่ ศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานสภาฯ ชี้แจงว่าสื่อที่สมาชิกนำมานั้นอนุญาตเกือบทั้งหมด เพียงแต่ว่าเสื้อเปื้อนเลือดก็ขออย่ามาโชว์เลย แค่บรรยายก็น่าจะเห็นภาพ
ส่วนภาพบางภาพไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ เป็นภาพหน่วยราชการกำลังฝึกอาวุธบางอย่าง จึงไม่อยากให้เกิดการเชื่อมโยง
จากนั้นจิรายุอภิปรายต่อ โดยช่วงหนึ่งได้นำภาพกล้องวงจรปิดคนร้ายขี่มอเตอร์ไซค์มาทำร้ายจ่านิวบริเวณป้ายรถเมล์ ซึ่งที่เกิดเหตุอยู่บริเวณปากซอยบ้านตน
ประธานสภาฯ ศุภชัยถามแทรกว่า “เหตุการณ์มันเกิดขึ้นที่ปากซอยบ้านท่านเลยเหรอครับ”
จิรายุตอบว่า “ถูกต้องครับ รามอินทรา 109 แต่ท่านประธานสภาฯ อย่าไปรู้เลยครับ เดี๋ยวมีคนไปรบกวนผม”
“ท่านจิรายุก็ระมัดระวังหน่อยนะครับ ผมก็เป็นห่วง” ประธานสภาฯ ศุภชัยกล่าว
“ประธานสภาฯ พูดแบบนี้ ประเทศไทยอยู่ไม่ได้แล้วนะครับพี่น้องสื่อมวลชน” จิรายุกล่าวตอบ
“ผมพูดว่าผมเป็นห่วงท่าน” ประธานสภาฯ ศุภชัยกล่าวชี้แจง เสียงหัวเราะดังลั่นห้องประชุม
จิรายุกล่าวต่อว่าปากซอยมีกล้อง 2 ตัว แต่ภาพที่ปรากฏตามสื่อมีภาพเพียงกล้องเดียวเท่านั้น ส่วนอีกกล้องหนึ่งไม่มี
นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังมีกล้องวงจรปิดถึง 4 ตัว ซึ่งน่าจะบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้หมด หากเทียบกับเหตุการณ์ปล้นร้านทองซึ่งคนร้ายปิดหน้าปิดตา รถก็ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน แต่จับได้ทันที ขณะที่ล่าสุดแม่ของจ่านิวยังบอกกับตนว่าจนถึงเวลานี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลบ้านของเขาเพื่อสร้างความปลอดภัย
จึงขอถามว่าท่านจะให้ดูแลประชาชนอย่างไรจากกรณีที่เกิดขึ้น
พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบกระทู้ว่าการสร้างความรุนแรงในสังคมนั้น รัฐบาลได้มอบนโยบายชัดเจนว่าจะต้องไม่เกิดกับใครเด็ดขาด ทั้งประชาชนและนักกิจกรรมทางการเมืองด้วย
ทั้งนี้ พลเอก ประวิตร ได้ห่วงใยและกำชับให้ตามจับผู้ดำเนินการกระทำผิดให้ได้โดยเร็ว
ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้ตำรวจท้องที่ใช้ชุดตรวจมากขึ้นในการดูแล ไม่เพียงเฉพาะจ่านิวเท่านั้น แต่รวมถึงบ้านของนักกิจกรรมทั้งหมด
โดยส่วนของนักกิจกรรม หากเห็นว่าตนเองไม่มีความปลอดภัยก็สามารถมาร้องเรียนหรือทำหนังสือมาที่ สน. หรือ สภ. ในพื้นที่ได้ รวมถึงตำรวจสันติบาล หรือขอมาผ่านกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โดย เอกชัย หงส์กังวาน ได้ขอมาผ่านกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และเจ้าหน้าที่ก็ได้จัดกำลังไปดูแล
ขณะที่จิรายุถามต่อว่าท่านต้องให้ความมั่นใจ เพราะตำรวจและทหารก็ลูกน้องท่าน และอยากให้บอกกับลูกน้องท่านว่าอย่าไปยุ่งกับเขา ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าลูกน้องท่านทำ แต่ถ้าท่านได้กรุณาบอกกับเจ้าหน้าที่ทั้งหลายก็จะสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้
จิรายุถามว่าท่านจะให้กำลังใจประชาชนอย่างไร ท่านจะสั่งหน่วยความมั่นคงและตำรวจอย่างไร เพราะในอนาคตอาจมีปัญหาแบบนี้อีก ถ้าท่านยังคลุมเครือแบบนี้
พลเอก ชัยชาญ ตอบกระทู้ว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน ถ้าเราไปด่วนตัดสินว่ามีฝ่ายใดเข้าไปดำเนินการนั้นอาจทำให้รูปคดีผิดไปและเกิดความเข้าใจผิดในสังคม
ความคืบหน้าในคดีนั้นมีการสอบพยาน 8 ปาก และวันนี้ได้สเกตช์ภาพคนร้ายและตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาเส้นทางหลบหนีและกำหนดอัตลักษณ์บุคคลเพื่อออกหมายจับต่อไป ทั้งนี้ขอยืนยันว่าตำรวจจะดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่ให้ความรุนแรงเกิดกับประชาชนคนใดเด็ดขาด
จิรายุถามต่อว่าปกติคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ตำรวจจะกำหนดกรอบเวลาหรือขีดเส้นตายไว้อย่างไร
พลเอก ชัยชาญ ตอบกระทู้ต่อว่าการดำเนินการมีพยานหลายปาก และต้องไปวิเคราะห์กล้องวงจรปิด ถ้าเราไปกำหนดกรอบเวลาในระยะสั้นจะทำให้เกิดความไม่รอบคอบ แต่เราได้เร่งรัดเร็วที่สุดและจะเร่งแจ้งให้สังคมทราบ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์