ในที่สุดวงการแฟชั่นและลักชัวรีก็ได้คำตอบว่าใครจะมาเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่ของ CHANEL ซึ่งล่าสุดมีการคอนเฟิร์มเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าคนคนนั้นคือ Matthieu Blazy ดีไซเนอร์ชาวเบลเยียม-ฝรั่งเศส ที่ก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่งเดียวกันที่แบรนด์ Bottega Veneta และกวาดคำชมอย่างล้นหลามกับผลงานที่เขาสร้างสรรค์ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
เว็บไซต์ WWD รายงานว่า ด้วยเรื่องสัญญาของ Matthieu Blazy กับ Bottega Veneta ที่อยู่ภายใต้เครือ Kering เขาจะเริ่มงานที่ CHANEL อย่างเป็นทางการประมาณช่วงเดือนเมษายน ปี 2025 และจะนำเสนอผลงานแรกในช่วงเดือนตุลาคมที่ Paris Fashion Week กับคอลเล็กชัน Spring/Summer 2026
Matthieu Blazy นับว่าเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์เพียงคนที่ 4 ของแบรนด์ที่มีอายุกว่า 114 ปีแล้วต่อจาก Gabrielle Chanel ที่ก่อตั้ง CHANEL เมื่อปี 1910 และสร้างสรรค์ผลงานจนเสียชีวิตเมื่อปี 1971 และ 12 ปีต่อมาในปี 1983 Karl Lagerfeld ก็มาสานต่อแบรนด์จนถึงปี 2019 ที่เขาเสียชีวิตเช่นกัน ก่อนที่มือขวาของเขาอย่าง Virginie Viard จะเข้ามาเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนที่ 3 และสร้างสรรค์ผลงานได้ 5 ปีเต็มจนถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
Bruno Pavlovsky ประธานฝั่งแฟชั่นของ CHANEL เผยผ่านเว็บไซต์ WWD ว่า แบรนด์ได้สัมภาษณ์ดีไซเนอร์มากมายทั่ววงการในทุกระดับเพื่อตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่จนมาถึง 3 คนสุดท้าย ซึ่ง Matthieu Blazy ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีที่สุดด้วยวิสัยทัศน์และการที่จะนำพา CHANEL ก้าวสู่ยุคใหม่ แต่ยังคงเรื่องราว รากฐาน และ DNA ของแบรนด์เอาไว้อยู่
“เราเลือกคนที่ให้คุณค่า มีความสามารถ และมีทัศนคติที่ตรงต่อผู้หญิงและลูกค้าของเรา ส่วนอีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญสำหรับผมคือดีไซเนอร์ที่เราเลือกต้องยังคงให้เกียรติและเคารพเรื่องราวที่สร้าง CHANEL มา ผ่านผลงานของทั้ง Mademoiselle Chanel, Karl Lagerfeld และ Virginie Viard ซึ่งเรื่องนี้สำคัญต่อผมมาก เพราะเราไม่ได้อยากเลือกคนที่อยากจะมาแข่งขันกับภาพลักษณ์และความตระการตาที่เคยมีมา แต่กลับต้องเข้าใจมากกว่าว่าจุดยืนของ CHANEL คืออะไร และอยากสานต่อเรื่องราวของแบรนด์อย่างไรต่อไป” Bruno Pavlovsky เผย
แต่ด้วยขนาดของแบรนด์ CHANEL ที่ท้ายปี 2023 มีพนักงานกว่า 36,500 คน Matthieu Blazy ก็จะเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ในส่วนของเสื้อผ้าแฟชั่นเท่านั้นเหมือนกับ Karl Lagerfeld และ Virginie Viard โดยไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับพาร์ตสินค้าบิวตี้ เครื่องประดับชั้นสูง และนาฬิกา ซึ่งในแต่ละปี Matthieu Blazy จะต้องดีไซน์กว่า 10 คอลเล็กชันที่แยกเป็น 2 คอลเล็กชั้นสำหรับเสื้อผ้า Ready-to-Wear, 2 คอลเล็กชันสำหรับ Haute Couture, คอลเล็กชัน Cruise, คอลเล็กชัน Métiers d’Art, คอลเล็กชัน Coco Neige, คอลเล็กชัน Coco Beach และยังมีอีก 2 Pre-Collection ระหว่างซีซันด้วย
Matthieu Blazy เผยความรู้สึกผ่านแถลงการณ์ว่า “ผมตื่นเต้นและเป็นเกียรติที่จะได้ทำงานกับแบรนด์สุดงดงามอย่าง CHANEL ผมรอคอยที่จะได้เจอทุกทีมและช่วยเขียนเรื่องราวใหม่ด้วยกัน”
แม้ Matthieu Blazy จะอายุเพียง 40 ปี แต่เขาก็ถือว่ามาพร้อมประสบการณ์มากมายหลังเรียนจบจากโรงเรียนสอนศิลปะและการออกแบบ La Cambre ที่เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม โดยเขาเคยทำงานมาแล้วหลายแบรนด์ทั้ง Raf Simons, Calvin Klein, CELINE, Maison Margiela และล่าสุด Bottega Veneta ซึ่ง Matthieu Blazy ก็กลายเป็นดาวเด่นอย่างรวดเร็วและมักได้รับคำชมรอบด้านทั้งเรื่องดีไซน์เสื้อผ้าที่ร่วมสมัย มีการโฟกัสด้านงานฝีมือ Craftsmanship นำเนื้อผ้ามาสร้างสรรค์ในวิธีใหม่ๆ ครีเอตแฟชั่นโชว์ที่ตื่นตาตื่นใจ และอยู่เบื้องหลังแคมเปญโฆษณาที่เป็นกระแสอยู่เป็นประจำ
ในส่วนของแบรนด์ Bottega Veneta ก็ประกาศแล้วเช่นกันว่าครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่ที่จะมาแทน Matthieu Blazy ก็คือดีไซเนอร์หญิงชาวอังกฤษอย่าง Louise Trotter จากแบรนด์ Carven ซึ่งเธอจะทำงานที่ Carven จนถึงปลายเดือนมกราคม ปี 2025
ภาพ: John Phillips / Getty Images for BoF
อ้างอิง: