Mastercard เอาจริงในด้านคริปโต หวังทำให้คริปโตสามารถเข้าสู่การใช้ในระดับงานสาธารณะ (Mass Adoption) ผ่านการทำให้สถาบันการเงินสามารถเสนอบริการทางด้านคริปโตแก่ลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (17 ตุลาคม) ทางตัวแทนของ Mastercard ได้กล่าวผ่านรายการของ CNBC ว่า ทางบริษัท Mastercard ต้องการเป็นสะพานเชื่อมระหว่าง ‘Paxos’ แพลตฟอร์มเทรดคริปโตและสถาบันการเงิน เพื่อนำเสนอบริการเทรดคริปโตให้แก่เหล่าลูกค้าของสถาบันการเงินต่างๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- การอัปเกรด The Merge ของ Ethereum และทิศทางในอนาคตของเหรียญ ETH
- ทำไมเหรียญ LUNC ถึงพุ่งกว่า 425% ภายใน 14 วัน? อะไรที่อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นครั้งนี้
- ไมเคิล เบอร์รี เตือนการล่มสลายครั้งประวัติศาสตร์กำลังจะเกิดขึ้น โดยมีต้นตอจากตลาดคริปโต
โดยทาง Paxos และ Mastercard จะคอยดูแลเรื่องความปลอดภัย และกฎระเบียบต่างๆ ให้แก่เหล่าลูกค้าด้วยเช่นกัน
แม้ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดคริปโตจะเข้าสู่ภาวะขาลง ทั้งยังมีข่าวทางด้านความปลอดภัยจากการโดนแฮ็ก และประเด็นอื่นอีกมากมาย แต่ทาง Jorn Lambert ประธานเจ้าหน้าที่ด้านดิจิทัลของ Mastercard ได้เผยกับ CNBC ว่า จากการสำรวจยังพบความต้องการซื้อคริปโตอยู่พอสมควร โดย 60% ของผู้ตอบแบบสอบถามต้องการลงทุนผ่านธนาคารที่เขาเหล่านั้นใช้งานอยู่
ทั้งนี้ เนื่องจากลูกค้าเหล่านั้นรู้สึกไม่ปลอดภัยจากข่าวการปิดตัวลงไปของหลายแพลตฟอร์มคริปโตอย่างกะทันหัน ทำให้กลุ่มลูกค้าเหล่านั้นรู้สึกมั่นใจกว่าที่จะเทรดผ่านสถาบันการเงินที่เชื่อถือได้
ซึ่งทาง Mastercard มองว่าเป็นหน้าที่ของบริษัทที่จะเข้ามาช่วยในการทำให้สถาบันการเงินปฏิบัติตามกฎหมายคริปโตอย่างถูกต้อง การตรวจสอบธุรกรรม และการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
โดยทาง Mastercard จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายในไตรมาสหนึ่งปีหน้า และคอยปรับปรุงสู่การขยายไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป อย่างไรก็ตาม Jorn ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดถึงธนาคารที่ได้เข้ามาเซ็นความร่วมมือต่อกัน
ทั้งนี้ Jorn ยังกล่าวว่า “คงเป็นการขาดวิสัยทัศน์หากมองว่าการเข้าสู่ภาวะตลาดขาลงของคริปโตจะแปลว่าจุดจบของคริปโต เพราะเราไม่เห็นภาพการสิ้นสุดเหล่านั้น ซึ่งการเข้ามาของการกำกับดูแลจะทำให้คริปโตยิ่งปลอดภัย และปัญหาต่างๆ จะจบไปในอีกไม่กี่ไตรมาสข้างหน้านี้” เขายังมองว่าแม้คริปโตจะเกิดมาเพื่อปฏิวัติระบบการเงินแบบเก่า แต่เขาชี้ว่า “คริปโตคงจะเข้าสู่กระแสหลักไม่ได้ หากไม่ร่วมมือกับระบบการเงินที่มีอยู่ตอนนี้”
นอกจากนี้ Mastercard และ Visa ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมการชำระเงิน ต่างมองเห็นในทิศทางเดียวกันต่อประเด็นด้านคริปโต เนื่องจาก Mastercard ได้มีการร่วมมือกับ Coinbase ในด้าน NFTs และ Bakkt ในการให้ธนาคารและร้านค้าสามารถเสนอบริการด้านคริปโตได้ ในขณะที่ Visa เองก็มีการประกาศความร่วมมือกับ FTX สำหรับการเสนอบริการคริปโตเดบิตและเครดิตการ์ด ใน 40 ประเทศ โดยมีพาร์ตเนอร์ด้านคริปโตกว่า 70 ราย
อ้างอิง: