วันนี้ (2 สิงหาคม) ที่แยกอโศกมนตรี กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมจัดกิจกรรมที่ใช้ชื่อว่า ‘CAR MOB แห่มาลัยวิวาห์ ยื่นรายชื่อประชาชน คล้องใจ 8 พรรคการเมือง’ โดยเริ่มรวมพลตั้งแต่เวลา 12.00 น. ก่อนจะเริ่มเคลื่อนขบวนในลักษณะของคาร์ม็อบตั้งแต่เวลา 13.00 น. มีปลายทางที่ที่ทำการพรรคเพื่อไทย
สำหรับกิจกรรมคาร์ม็อบในครั้งนี้เป็นลักษณะการแห่ขบวนขันหมากที่มีความสนุกสนานและสีสัน เป้าหมายหลักคือการส่งรายชื่อที่ได้รวบรวมจากประชาชนส่งไปยังบรรดา 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพื่อส่งสัญญาณให้ 8 พรรคร่วมรับรู้ว่าประชาชนทุกคนมุ่งหวังที่จะเห็นรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของ 8 พรรคร่วมที่ลงนาม MOU ร่วมกัน และอยากจะฝากถึง 8 พรรคร่วมให้เข้มแข็งเข้าไว้ อย่าให้เงื่อนไขของวุฒิสมาชิกมาเป็นประเด็นทำให้พรรคร่วมทั้ง 8 ต้องแตกหัก และมุ่งหวังให้ทั้ง 8 พรรคจับมือกันสามัคคีต่อไปจนกว่าสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ชุดนี้จะหมดวาระในอีก 10 เดือนข้างหน้า
เวลา 12.10 น. บอย-ธัชพงศ์ แกดำ ในฐานะผู้ดำเนินรายการกิจกรรมชุมนุมกล่าวว่า จุดประสงค์กิจกรรมนี้เพื่อจะเน้นย้ำจุดยืนให้พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยยังคงเกาะเกี่ยวให้แน่น ยึดหลักการประชาธิปไตยเป็นหลักในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่เปิดทางให้ฝ่ายรัฐบาลเดิมหรือฝ่ายเผด็จการจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ
ฉะนั้นกิจกรรมวันนี้ถือว่าเป็นการย้ำหลักการเดิมที่กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมเคลื่อนไหวมาตั้งแต่ปี 2563 กลุ่มแนวร่วมฯ จะยื่นหลักการให้ทั้ง 8 พรรคร่วมจับมือสามัคคีกันไว้ หรือถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ให้รอระยะเวลา ส.ว. หมดวาระ ไม่ต้องฝืนจับมือกับใคร ตนคิดว่าเรารอมา 8 ปีแล้ว ถ้าจะรออีก 8 เดือนก็ย่อมได้ไม่เป็นไร
ธัชพงศ์กล่าวต่อว่า การทำงานในสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้แม้ไม่มีรัฐบาลก็ไม่เป็นไร ยังมีรักษาการสภาดำเนินการไปต่อได้ เพราะเป็นคนละฝ่ายระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหาร ดีกว่าฝืนจัดตั้งแล้วตกลงกันไม่ได้ ทะเลาะกันไปมา
ส่วนตัวเชื่อว่า ส.ว. จะทนอยู่ปฏิบัติงานได้ไม่เกิน 1 หรือ 2 เดือน เพราะสังคมโลกและสังคมไทยโฟกัสที่ ส.ว. โดยตรง ไม่ได้โฟกัสไปที่ 8 พรรคร่วมหรือฝ่ายเผด็จการ สังคมตั้งคำถามว่าทำไมไม่เปิดทางให้การเมืองเดินหน้าต่อไปได้ การที่ทุกวันนี้มีแนวร่วมเครือข่ายต่างๆ ออกมาทำกิจกรรมเรียกร้อง หมายถึงว่าประชาชนออกมาเคลื่อนไหวเพราะไม่อาจเห็นด้วยกับกลุ่ม ส.ว. ได้อีกต่อไป
และหาก ส.ว. จะดึงเอานายกรัฐมนตรีคนนอกเข้ามา เงื่อนไขนี้แสดงว่ากำลังจะทำให้เป็นวงจรอุบาทว์ ส.ว. พยายามทำให้การเมืองไทยถอยหลัง
ธัชพงศ์กล่าวถึงกรณีทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยว่า เป็นสิทธิตามชอบธรรม ตนเห็นด้วยที่ทำให้กระบวนการยุติธรรมของไทยดำเนินต่อไปได้ ด้วยความยุติธรรมนี้อาจทำให้ผู้ลี้ภัยทางการเมืองรายอื่นๆ สามารถเดินทางกลับประเทศได้เช่นกัน
เวลา 14.28 น. กลุ่มมวลชนเดินทางมาถึงที่บริเวณหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยธัชพงศ์ประกาศบนรถขยายเสียงว่า ขอให้มวลชนที่เดินทางมาร่วมกันฟังคำสั่งจากรถเครื่องขยายเสียงเท่านั้น อย่าบุกรุกหรืออย่าทำอะไรนอกเหนือจนเกิดอันตราย ขณะที่กลุ่มผู้ทำกิจกรรมได้เริ่มจัดขบวนขันหมาก
เวลา 14.35 น. รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกของพรรค พร้อมด้วย เบญจา แสงจันทร์, ภคมน หนุนอนันต์ และ กรุณพล เทียนสุวรรณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางมารับหนังสือและพบปะผู้ชุมนุม โดยได้ทักทายกลุ่มผู้ชุมนุมพร้อมบอกขอบคุณประชาชนที่มา
โดยมีหนึ่งในผู้ชุมนุมตะโกนว่า “อย่าไปยอมมัน” รังสิมันต์จึงถามกลับว่า “อย่าไปยอมมันนี่ อย่าไปยอมใคร”
จากนั้นรังสิมันต์กล่าวก่อนรับหนังสือว่า เรื่องที่ประชาชนมาวันนี้ก็เพราะอยากให้ 8 พรรคร่วมจับมือกันให้แน่น เป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลเองก็อยากให้เป็นแบบนั้น เพราะจุดยืนของพรรคก้าวไกล การจับมือ 8 พรรคร่วมเป็นสิ่งสำคัญ
วันนี้ตนและตัวแทน ส.ส. ของพรรคมารับหนังสือจากประชาชนที่มาให้กำลังใจด้วยความปรารถนาดีที่อยากเห็นการทำงาน 8 พรรคร่วมในการตั้งรัฐบาลประชาชน และต้องยอมรับว่าการตัดสินใจใดๆ ไม่ได้อยู่เฉพาะที่ก้าวไกล ยังมีตัวแปรอื่นๆ
เมื่อถามว่าเจ้าบ่าวหรือพรรคเพื่อไทยไม่อยู่แล้ว เจ้าสาวหรือพรรคก้าวไกลจะทำอย่างไรต่อไป รังสิมันต์ตอบว่า ตนเข้าใจมาโดยตลอดว่าเราแต่งงานกันแล้ว จดทะเบียนกันแล้ว MOU เปรียบเสมือนการจดทะเบียน แต่วันนี้ไม่ใช่เจ้าสาวรอเก้อ แต่กำลังจะมีการหย่ากันมากกว่า
เมื่อถามว่าภรรยาน้อยหรือพรรคอื่นจะเยอะหรือไม่ รังสิมันต์ตอบว่า ไม่ทราบ คงต้องไปถามผู้ที่จะไปมีกิ๊กหรือจะเรียกว่าภรรยาน้อยอะไรก็แล้วแต่
รังสิมันต์กล่าวต่อว่า วันนี้อยากขอบคุณประชาชน และตนก็ยืนยันทุกครั้งว่าการมารวมตัวกันของประชาชนเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แม้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่ถูก แต่หลักการในสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกเป็นเรื่องที่ถูกยอมรับในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และเป็นสาระสำคัญหากจะบอกว่าจะมีระบอบประชาธิปไตย ผู้ชุมนุมก็มีสิทธิในการแสดงออกอยู่แล้ว จึงขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจ และความประสงค์ของผู้ชุมนุมคือต้องการเห็น 8 พรรคร่วมทำงานร่วมกัน แต่วันนี้ไม่ใช่การตัดสินใจของพรรคก้าวไกล
เมื่อถามว่าการไปเป็นฝ่ายค้านจะโชว์ฝีมือได้อย่างไรนั้น รังสิมันต์ระบุว่า ไม่ใช่การโชว์ฝีมือ แต่จะเป็นการทำให้ฝันของประชาชนเป็นจริงมากกว่า
เมื่อถามว่าความรู้สึกของ ส.ส. พรรคก้าวไกล หลังจากเห็นข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องฉีก MOU และไม่มีพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาลรู้สึกอย่างไร รังสิมันต์กล่าวว่า ตนขอตอบในนามความรู้สึกส่วนตัวว่า หากพูดกันอย่างตรงไปตรงมาก็เห็นสัญญาณการปล่อยข่าวมาโดยตลอด และคงรู้อยู่แล้วว่าอาจมีข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแบบนี้ได้
“ข้อเท็จจริงที่เจ็บปวดที่สุดคงเป็นเรื่องของพี่น้องประชาชนที่เขาฝัน มันน่าเศร้า มันอีกนิดเดียว คุณเคยรู้สึกไหมว่ามันอีกนิดเดียวจริงๆ”
โดยหลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ รังสิมันต์ได้เดินออกไปรับหนังสือจากตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมที่ยื่นหนังสือและรายชื่อกว่า 40,000 รายชื่อ พร้อมกับคล้องพวงมาลัยให้กับรังสิมันต์ในฐานะเจ้าสาว
จากนั้นรังสิมันต์ระบุว่า วันนี้เรามารับหนังสือ จุดยืนของผู้ชุมนุมก็เหมือนจุดยืนเดิมของพรรคก้าวไกล เราต้องการให้ 8 พรรคร่วมจับมือกันให้แน่นเข้าไว้ แต่ต้องยอมรับว่าความพยายามจากพรรคก้าวไกลฝ่ายเดียวยังไม่เพียงพอ
และเมื่อดูจากเหตุการณ์ทั้งหมด ทั้งเรื่องที่พรรคก้าวไกลยอมถอยตำแหน่งประธานรัฐสภา รวมถึงให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทั้งหมดทั้งมวลพรรคก้าวไกลถอยมาเยอะ เพื่อให้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลให้ประชาชนได้
ขณะนี้ ส.ส. พรรคก้าวไกลกำลังมีการประชุมกันว่าจะมีจังหวะเดินต่อไปอย่างไร เพราะในวันที่ 4 สิงหาคมนี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 3
เมื่อถามว่ามองปรากฏการณ์ครั้งนี้อย่างไร รังสิมันต์กล่าวว่า เราไม่อยากให้ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้น และหากจินตนาการว่า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 312 เสียงเป็นพรรคเดียวก็น่าจะจบ แม้อาจจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้เพราะเสียงไม่ถึง 376 เสียง
ขณะที่เวลา 14.50 น. เกิดความวุ่นวายขึ้นบริเวณลานด้านหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยกลุ่มทะลุวังได้ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ นำตุ๊กตาหุ่นฟางมาวางเรียง จากนั้นจึงจุดไฟเผา และนำสีแดงสาดที่ตุ๊กตา พื้น บันได และด้านหน้าอาคาร โดยมวลชนบางส่วนได้ตะโกนด่าทอแสดงความไม่พอใจหลังพรรคเพื่อไทยประกาศไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล
เวลา 15.40 น. ภายหลังที่แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมยื่นรายชื่อและผลโพลประชาชนที่สนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยยึดมั่นจับมือ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยกับทางตัวแทนพรรคที่เดินทางมารับเอกสารแล้ว
ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมเปิดเผยว่า ตัวแทนของพรรคเพื่อไทยแจ้งว่าจะนำสิ่งที่ได้รับไปพูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคต่อไป โดยกลุ่มแนวร่วมฯ จะให้โอกาสกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 4 สิงหาคมนี้ หากพรรคเพื่อไทยข้ามขั้วจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันว่าจะมีการทำกิจกรรมชุมนุมเกิดขึ้นแน่นอน
พร้อมฝากว่า ประชาชนได้ต่อสู้กับฝ่ายอนุรักษนิยมมาจนขนาดนี้ มีผู้คนบาดเจ็บล้มตาย จากที่เคยชู 3 นิ้ว ตอนนี้เหลือเพียงนิ้วเดียวแล้ว หากเพื่อไทยชูนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับฝ่ายตรงข้าม เมื่อนั้นประชาชนก็จะให้นิ้วเดียวกับท่านเช่นเดียวกัน
พร้อมกล่าวอีกว่า ขณะนี้เรากำลังจะยกเท้าเดิน หากเดินไปข้างหน้า เราจะมุ่งสู่ประชาธิปไตย หากเพื่อไทยเดินถอยหลังจะได้ลงเหวกันแน่นอน ขอพรรคเพื่อไทยอย่าลืมคนเสื้อแดงที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยกันมา วันนี้ลูกหลานคนเสื้อแดงก็มา ซึ่งพวกเรามาเตือนความจำที่เคยพูดไว้กับประชาชน อย่าทำให้ประชาชนผิดหวัง
จากนั้นเวลา 16.00 น. ผู้จัดชุมนุมประกาศยุติกิจกรรม ขอให้มวลชนแยกย้าย
