วันนี้ (26 เมษายน) สมาคมจารวีเพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย และกลุ่มผู้ประกอบการร้านนวดเพื่อสุขภาพในกรุงเทพมหานคร เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) กรณีที่ กทม. โดยมติของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ ให้ปิดสถานที่ที่เสี่ยงโควิด-19 จำนวน 31 แห่ง เป็นเวลา 14 วัน โดยหนึ่งในสถานที่ที่สั่งปิดคือร้านนวด
พิทักษ์ โยธา นายกสมาคมจารวีเพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย กล่าวว่า การสั่งปิดร้านนวดเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี โดยก่อนหน้านี้ที่คำสั่งปิดครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ถึง 15 มิถุนายน 2563 เป็นระยะเวลากว่า 3 เดือน ส่วนครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 อีก 26 วัน
“คำสั่งปิดสถานที่ของผู้ว่าฯ กทม. ทำให้ร้านนวดไม่สามารถดำเนินการต่อได้ แต่ผู้ประกอบการยังต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเท่าเดิม ค่าเช่า ค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ โดยไม่มีมาตรการช่วยเหลือจากทางภาครัฐ อันนี้เราขอความเป็นธรรม” พิทักษ์กล่าว
โดยผู้ประกอบการขอให้ กทม. มีส่วนในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากคำสั่งปิดดังกล่าว ซึ่งอาจมีแนวทางหลายรูปแบบทั้งการให้ภาครัฐออกคำสั่งยกเว้นค่าเช่าเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ รวมถึงให้ผู้ว่าฯ กทม. พิจารณาทบทวนคำสั่งดังกล่าวให้เพื่อสถานประกอบการกลับมาเปิดอีกครั้ง โดยยืนยันมาตรฐานความปลอดภัยในการให้บริการ
ขณะที่ตัวแทนร้านนวดรายหนึ่งกล่าวว่า ที่ผ่านมาร้านนวดก็ปฏิบัติตามมาตรการของทางภาครัฐทุกอย่าง แต่ภาครัฐไม่มีมาตรการในเชิงป้องกัน เมื่อมีผู้ติดเชื้อก็ปิด ทำให้มีผลกระทบมากต่อร้านของตนเอง นอกจากผู้ประการที่ได้รับผลกระทบแล้ว ภาคแรงงานก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน
“ภาคแรงงานได้รับผลกระทบมากๆ วันนี้กลายเป็นคนว่างงานอีกแล้ว ไม่มีรายได้อีกแล้ว ภาคแรงงานมีพ่อแม่ มีลูกหลานที่ต้องดูแล ถ้าแรงงานล้ม ตัวครอบครัวของแรงงานมีสิทธิ์ล้มเช่นเดียวกัน อยากให้ภาครัฐเข้ามาดูตรงนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่สั่งปิดแล้วจบ” ตัวแทนร้านนวดกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ได้ส่งตัวแทนมารับหนังสือ โดยทางตัวแทนยืนยันว่าจะรับหนังสือส่งให้ผู้ว่าฯ กทม. พิจารณา และจะแจ้งให้ทางตัวแทนของผู้ประกอบการได้ทราบต่อไป
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์