หากใครเคยมาทำธุระหรือเดินเล่นห้างสรรพสินค้าย่านถนนรางน้ำ คงจะคุ้นเคยกับบรรยากาศที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจากจีน หรือที่เรียกกันติดปากว่า ทัวร์จีน ซึ่งตลอดทั้งวันจะใช้ชีวิตวนไปมาบนถนนเส้นนี้อย่างหนาตา ทำให้ร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึง ‘ร้านนวดไทย’ มีรายได้จากการมาใช้บริการของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ชนิดที่เรียกว่าเตียงนวดแทบไม่เคยว่าง หมอนวดแทบไม่ได้กินข้าว
แต่หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มต้นขึ้น ซึ่งประเทศต้นทางแรกๆ อย่างจีน ได้สั่งให้คนจีนห้ามออกเที่ยวยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก บรรยากาศถนนเส้นนี้ก็เริ่มเงียบเหงา กระทั่งวันนี้ การระบาดในประเทศไทยมีตัวเลขผู้ป่วยทะลุหลักสองร้อยรายไปแล้ว ทำให้รัฐต้องออกมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดด้วยการสั่งปิดสถานบริการและสถานประกอบการตั้งแต่วันที่ 18-31 มีนาคม ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องตัดสินใจปิดร้าน เพราะนอกจากไม่มีผู้ใช้บริการมากอย่างเคย ยังเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายด้วย
หมอนวดคนหนึ่งเปิดเผยกับ THE STANDARD ว่า จำเป็นต้องตัดสินใจปิดร้าน เพราะไม่มีลูกค้าเข้าร้านมาเป็นเดือนแล้ว แต่ละวันเรียกว่าน้อยมาก การปิดร้าน 14 วันในครั้งนี้จึงถือโอกาสทำความสะอาดร้าน เปลี่ยนอุปกรณ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ใช้บริการหลังสถานการณ์ปกติ ขณะเดียวกันยังจะให้พนักงานได้กักตัวเองไปพร้อมกันด้วย
อย่างไรก็ตาม เราสังเกตเห็นสีหน้าแห่งความกังวล ทุกร้านอนุญาตให้เราถ่ายภาพได้อย่างน้อยก็เพื่อสื่อสารไปถึงผู้ที่บริหารจัดการเรื่องนี้อยู่ว่า นี่คือสภาพความเป็นจริง และสภาพปากท้องของพวกเขาที่กระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่ได้หมายความแต่เพียงใครคนหนึ่งคนเดียวที่กระทบ แต่มันหมายถึงอีกหลายปากท้องในครอบครัวที่กำลังตกที่นั่งลำบาก ต้องช่วยกันประคับประคองให้รอดพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า