×

TNP – คาด 4Q66 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2566

04.01.2024
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

 

ใน 4Q66 ผู้บริหาร บมจ.ธนพิริยะ (TNP) คาดยอดขายรวมเติบโต YoY แรงหนุนจากรับรู้ยอดขายสาขาใหม่ที่มีเพิ่มขึ้น 4 แห่งจาก 4Q65 โดย 4Q66 เปิดเพิ่มอีก 2 แห่งในจังหวัดเชียงราย คืออำเภอเมือง ขนาด 1,000 ตารางเมตร ใกล้แหล่งท่องเที่ยว 1 แห่ง และอำเภอเวียงป่าเป้า ขนาด 300 ตารางเมตร ซึ่งทำให้สิ้นปี 2566 มีสาขารวม 46 แห่ง เพิ่มจากปีก่อนที่มี 42 แห่ง

 

ขณะที่ยอดขายสาขาเดิมมีแนวโน้มทรงตัว YoY เนื่องจากเดือนตุลาคมยอดขายสาขาเดิมยังติดลบ เพราะมีฐานสูงปี 2565 จากมาตรการคนละครึ่งเฟส 5 แต่คาดถูกชดเชยได้ด้วยยอดขายสาขาเดิม เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมปรับตัวดีขึ้นหลังเข้าสู่ฐานปกติ อีกทั้งการจับจ่ายใช้สอยและการท่องเที่ยวปลายปีกลับมาดีขึ้น

 

สำหรับปี 2567 TNP ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10-15%YoY จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายสาขาเดิม หลังมีแผนหาสินค้าใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูงมาจำหน่ายในร้านค้าเพิ่ม และตั้งเป้าขยายสาขาใหม่อีก 6 แห่ง (ปัจจุบันมีที่ดินแน่นอนแล้ว 2 แห่ง และที่เหลือกำลังหาทำเลที่เหมาะสม) ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิ แจกเงินดิจิทัล คาดว่าจะเห็นเป็นรูปธรรมใน 2H67 โดยมองจะส่งผลดีต่อบริษัทโดยตรง ทั้งนี้ TNP มีสาขากระจายครอบคลุมภาคเหนือตอนบน ซึ่งคาดว่าลูกค้าจะสะดวกและสามารถเข้ามาใช้เงินดิจิทัลได้ในทุกสาขา

 

กระทบอย่างไร:

 

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น TNP ปรับขึ้น 4.17% สู่ระดับ 3.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 3.84% สู่ระดับ 1,433.38 จุด

 

ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน:

 

4Q66 TNP จะเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี 2566 โดยคาดว่ามีกำไรสุทธิ 41 ล้านบาท โต 22.5%QoQ ตามผลฤดูกาล แต่จะทรงตัว YoY เนื่องจากคาดว่าการรับรู้ยอดขายจากสาขาใหม่ที่มีเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4 แห่ง จะถูกหักล้างบางส่วนด้วยยอดขายสาขาเดิมที่ทรงตัว YoY หลังมีฐานสูงปีก่อน (เดือนตุลาคม 2565 ยังได้อานิสงส์บวกจากคนละครึ่งเฟส 5) จึงคาดว่ายอดขายรวมจะเพิ่มขึ้นเพียง 6.6%YoY

 

อีกทั้งอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะลดลงเป็น 16.6% จาก 17.3% ใน 4Q65 เพราะบริษัทยังไม่สามารถส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปยังราคาขายสินค้าได้หมด อย่างไรก็ดี ทั้งปี 2566 คาดว่า TNP จะมีกำไรสุทธิ 149 ล้านบาท ทรงตัว YoY ตามประมาณการเดิม และจะพลิกเติบโต 6%YoY ในปี 2567 จากกำลังซื้อที่ดีขึ้นและการรับรู้ยอดขายสาขาใหม่ที่มีแผนเปิดต่อเนื่องอีก 6 แห่ง

 

ในปี 2567 มองผลการดำเนินงานของ TNP มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น และยังเป็นหุ้นที่ได้อานิสงส์บวกโดยตรงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐบาลที่จะทยอยออกมา (ในประมาณการยังไม่รวม Upside จากมาตรการแจกเงินดิจิทัล) เมื่อบวกกับการมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยสิ้น 3Q66 ไม่มีหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายและมีฐานะเงินสดสุทธิราว 69 ล้านบาท อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside น่าสนใจจากราคาเป้าหมายปี 2567 ที่หุ้นละ 4.20 บาทต่อหุ้น (อิงค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 3 ปีที่ 21x) ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ ‘หาจังหวะซื้อลงทุน’ ทั้งนี้ เชิงเทคนิคมีแนวรับ 2.94-2.86 บาท และแนวต้าน 3.08-3.14 บาท

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อแย่กว่าคาด แผนขยายสาขาต่ำกว่าคาด ส่วนความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือความปลอดภัยและการรักษาข้อมูลการรักษาของลูกค้าที่มาใช้บริการ รวมทั้งการมีผู้ถือหุ้นใหญ่ถือหุ้นของบริษัทเกิน 50%

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X