เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้วิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 1Q64 ของ บมจ.ธนพิริยะ (TNP) ซึ่งคาดว่าจะประกาศภายในเดือนพฤษภาคม 2564
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น TNP ปรับตัวขึ้น 33%MoM สู่ระดับ 6.15 บาท เทียบกับ SET Index ที่ปรับตัวขึ้น 0.1%MoM สู่ระดับ 1,568.21 จุด (ข้อมูล ณ 22 เมษายน 2564)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดกำไร 1Q64 ของ TNP จะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 45 ล้านบาท เติบโต 41%YoY โดยยอดขายรวม 1Q64 จะเติบโต 15%YoY ซึ่งหลักๆ มาจากยอดขายสาขาเดิม (SSS) ที่คาดว่าจะเติบโต 6-7%YoY หลังจากกำลังซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มอีกเดือนละ 500 บาท ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2564
รวมถึงยังได้อานิสงส์ทางตรงจากโครงการเราชนะ และทางอ้อมจากโครงการคนละครึ่ง ด้านอัตรากำไรขั้นต้น 1Q64 จะปรับตัวขึ้นสู่ 16.5% จาก 15.9% ใน 1Q63 จากการมีอำนาจต่อรองกับคู่ค้าที่สูงขึ้น และเกิดผลประหยัดต่อขนาดจากการมีจำนวนสาขาเพิ่ม
สำหรับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อ TNP แต่อย่างใด เนื่องจากสาขาส่วนใหญ่ 30 แห่งอยู่ในจังหวัดเชียงราย และ 1 สาขาอยู่ในจังหวัดพะเยา ซึ่งไม่ได้อยู่ในพื้นที่สีแดง ขณะที่อีก 2 สาขาในจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในพื้นที่สีแดง แต่ยังเปิดให้บริการตามปกติ
มุมมองระยะยาว:
SCBS มีมุมมองเชิงบวกอย่างมากต่อแนวโน้มผลประกอบการของ TNP แม้จะเป็นหุ้นค้าปลีกขนาดเล็ก แต่มีศักยภาพในการเติบโตของกำไรและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง (Net Cash 34 ล้านบาท) หลังจากคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น และเกิดผลประหยัดต่อขนาดหลังจากมีสาขาเพิ่มขึ้น
โดย SCBS คาดกำไรสุทธิปี 2564 ของ TNP อยู่ที่ 168 ล้านบาท เติบโต 26%YoY และจะเติบโตอย่างน้อยปีละ 16% ในปี 2565-2567 จากกำลังซื้อที่ดีขึ้น และการขยายสาขาและ 4-5 แห่ง ทั้งนี้จากสิ้นปี 2563 มีสาขาทั้งสิ้น 32 แห่ง สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อแนวโน้มผลประกอบการคือภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่แย่กว่าคาด รวมถึงแผนขยายสาขาที่ต่ำกว่าคาด
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล