เกิดอะไรขึ้น:
InnovestX Research ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 4Q65 ของ บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ซึ่งคาดว่าจะรายงานผลประกอบการวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น SNNP ปรับเพิ่มขึ้น 20.40%MoM สู่ระดับ 24.20 บาท ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 0.83%MoM สู่ระดับ 1,682.58 จุด
พรีวิวผลประกอบการ 4Q65:
ราคาหุ้นมีการปรับเพิ่มขึ้น 20% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา คาดสะท้อนทิศทางผลประกอบการของ 4Q65 ที่ InnovestX Research คาดไว้ว่าจะทำ New High ได้ที่ 157 ล้านบาทจากการฟื้นตัวของยอดขายและอัตราการทำกำไรขั้นต้น
โดยแนวโน้มการทำกำไรของ 4Q65 และปี 2566 มีโอกาสทำได้ดีกว่าคาดเดิม เนื่องจากต้นทุนหลักหลายรายการเริ่มมีแนวโน้มลดลง เช่น ต้นทุนบรรจุภัณฑ์ของ Jele ที่ลดลงมากว่า 12% จากช่วง Peak ที่ต้นปี 2565 รวมถึงราคาแป้งและต้นทุนการขนส่ง
ซึ่งจากแนวโน้มของอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ดีกว่าที่คาดไว้ จึงมีการปรับประมาณการกำไรสุทธิของปี 2565 เพิ่มขึ้น 1% เท่ากับ 525 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 20%YoY) ทำจุดสูงสุดใหม่ โดยคาดว่าใน 4Q65 SNNP จะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 162 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 34%YoY และ 14%QoQ) รายได้คาดยังทำได้แข็งแกร่งที่ 1,599 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 32%YoY และ 9%QoQ)
โดยมีสัดส่วนรายได้จากในประเทศที่ 75% ต่างประเทศที่ 25% ยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่าจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ โดยยอดขายจาก 2 ประเทศหลักที่ SNNP มีโรงงานตั้งอยู่คือ เวียดนามและกัมพูชา อัตราการทำกำไรขั้นต้นคาดฟื้นตัวเท่ากับ 28.3% ฟื้นตัวจาก 27.3% ใน 3Q65
กลยุทธ์การลงทุนและแนวโน้มผลประกอบการปี 2566:
InnovestX Research คาดว่าทิศทางของต้นทุนหลักในปี 2566 โดยเฉลี่ยจะต่ำกว่าปีที่ผ่านมา โดยได้มีการปรับลดต้นทุนและคาดว่าอัตราการทำกำไรขั้นต้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 28.8% จากประมาณการเดิมที่ 27.5% โดยคาดว่าแนวโน้มของอัตราการทำกำไรขั้นต้นใน 2H66 จะดีกว่า 1H66 เมื่อโรงงานใหม่ในเวียดนามผลิตเต็มกำลังทุกสินค้าครบ
โดยคาดว่ากลุ่ม Bento จะเริ่มผลิตช่วง 2Q66 และกลุ่ม Jele เริ่มผลิตใน 2H66 ซึ่งการผลิตในเวียดนามมีต้นทุนวัตถุดิบต่ำกว่า และการทำการตลาดแบบ Mass Product คาดว่าจะหนุนยอดขายและส่งผลให้ในระยะยาวอัตราการทำกำไรดีขึ้น
ดังนั้นจึงคาดการณ์รายได้ของปี 2566 ที่ 6,260 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 13%YoY) โดยสัดส่วนรายได้จากในประเทศและต่างประเทศจะปรับเป็น 30:70 เมื่อโรงงานเวียดนามผลิตครบทุนกลุ่มสินค้า และกำไรสุทธิจากการปรับประมาณการแล้วคาดที่ 692 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 30%YoY) ทำจุดสูงสุด
InnovestX Research ให้คำแนะนำ ‘ซื้อ’ โดยใช้สมมติฐาน PER ที่ 31.5 เท่า (+1SD) ด้วยราคาเป้าหมายปี 2566 เท่ากับ 25.50 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 23.10 บาทต่อหุ้น โดยคาดหวังที่เห็นการเปิดธุรกิจเสริมอาหารในปี 2566 เพื่อต่อยอดการเติบโตรวมไปถึงการเติบโตของตลาดต่างประเทศขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ การบริหารต้นทุนและความผันผวนของค่าเงิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 8 หุ้นเนื้อทอง เซียนหุ้น รุมตอม ร่วมลงทุนติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่
- 9 หุ้นสุดฮอต ค่า P/E Ratio สูงทะลุ 500 เท่า
- เช็ก! 10 หุ้น SETHD จ่ายเงินปันผลสูง