×

SCGP – แนวโน้มผลประกอบการ 4Q64 อ่อนตัวลง เพราะ Margin แคบลง

13.01.2022
  • LOADING...
SCGP

เกิดอะไรขึ้น:

SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 4Q64 ของ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) ซึ่งคาดว่าจะรายงานผลประกอบการวันที่ 25 มกราคม 2565

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น SCGP ปรับตัวขึ้น 1.65%MoM สู่ระดับ 65.25 บาท ต่ำกว่า SET Index เล็กน้อย ที่ปรับตัวขึ้น 3.3%MoM สู่ระดับ 1,680.02 จุด (ข้อมูล ณ วันที่ 13 มกราคม 2565)

 

มุมมองระยะสั้น:

SCBS คาดว่า SCGP จะรายงานกำไรสุทธิ 4Q64 ที่ 1.5 พันล้านบาท ลดลง 1%YoY และลดลง 18%QoQ หากตัดรายการพิเศษออกไป กำไรปกติจะอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท ลดลง 10%YoY และลดลง 5%QoQ โดยมีสาเหตุมาจาก Margin ที่ลดลง ทั้งจากสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร และสายธุรกิจเยื่อและกระดาษ ซึ่งจะไปหักล้างผลบวกจากรายได้ที่สูงขึ้น จากการเติบโตของธุรกิจตามปกติ และการทำ M&P

 

ด้านรายได้ 4Q64 มีแนวโน้มเติบโต 39%YoY สู่ 3.28 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าการเติบโต 17% จะเกิดจากการทำ M&P (Sovi, Go-Pak, Duy Tan, Intan Group และ Deltalab) และการเติบโตของธุรกิจตามปกติ (หลักๆ เกิดจากราคาผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น) หากไม่รวมการทำ M&P ปริมาณการขายจะปรับตัวดีขึ้น QoQ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวียดนาม (แต่ยังคงลดลง YoY อันเป็นผลมาจากการทยอยเพิ่มการผลิตหลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ใน 3Q64) และส่วนหนึ่งเกิดจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ อันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายลง แต่จะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ ในประเทศไทย เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มอาหารแปรรูปและแช่แข็ง จะถูกหักล้างโดยยอดขายที่ลดลงในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อันเป็นผลมาจากการขาดแคลนวัตถุดิบ 

 

สำหรับราคาผลิตภัณฑ์ SCBS คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น YoY สอดคล้องกับราคากระดาษในตลาด Spot ที่เพิ่มขึ้นสู่ 530 ดอลลาร์ต่อตัน ใน 4Q64 (เพิ่มขึ้น 25%YoY และเพิ่มขึ้น 12%QoQ) สอดคล้องกับอุปสงค์ในตลาดภูมิภาค ที่ปรับตัวดีขึ้นหลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และราคาผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น จากการให้บริการโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร

 

ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น 4Q64 คาดว่าจะลดลง YoY สู่ 17.2% (ลดลง 0.20%YoY และลดลง 0.10%QoQ) โดย Margin 4Q64 จากสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรจะลดลง เนื่องจากต้นทุน RCP ที่แท้จริงน่าจะอยู่ในระดับสูง เมื่อพิจารณาจากการเก็บสินคงคลังไว้ไม่เกิน 2 เดือน และต้นทุน RCP ในตลาด Spot ที่ทำจุดสูงสุดในรอบ 3 ปีใน 3Q64 ที่ 310 ดอลลาร์ต่อตัน (ลดลง 96%YoY และลดลง 13%QoQ) และ 280 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ใน 4Q64 (ลดลง 10%QoQ จากการจัดเก็บ RCP ภายในประเทศได้ดีขึ้น เนื่องจากสถานการณ์โควิดปรับตัวดีขึ้น แต่เพิ่มขึ้น 55%YoY เพราะต้นทุนค่าระวางสูง) 

 

ด้าน Margin 4Q64 จากสายธุรกิจเยื่อและกระดาษก็น่าจะอ่อนตัวลง QoQ เพราะได้รับผลกระทบจากราคาเยื่อใยสั้นในตลาดที่ลดลงสู่ 570 ดอลลาร์ต่อตัน ใน 4Q64 (ลดลง 11%QoQ อันเป็นผลมาจากการซื้อที่ชะลอตัวลง เพราะระดับสินค้าคงคลังในจีนสูง แต่เพิ่มขึ้น 19%YoY เนื่องจากความต้องการทิชชูและสิ่งทอแข็งที่แข็งแกร่ง) ต้นทุนถ่านหินคิดเป็นสัดส่วน 5% ของต้นทุนทั้งหมดของ SCGP บริษัททำสัญญาซื้อถ่านหินที่ต้องใช้ในปี 2565 ไว้ล่วงหน้าเป็นส่วนใหญ่แล้ว และวางแผนใช้เชื้อเพลิงทางเลือกเพิ่มขึ้นจาก 30% ในปี 2564 สู่ 40% ในปี 2565

 

มุมมองระยะยาว:

SCBS คาดว่าแนวโน้มกำไรปกติ 2565 ของ SCGP จะเติบโต 22% โดยได้รับการสนับสนุนจากธุรกิจของบริษัทเองที่ปรับตัวดีขึ้น การขยายกำลังการผลิตในโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว และมีรายได้แล้ว (Brownfield) และการเติบโตจากดีล M&P

 

นอกจากนี้ SCGP ตั้งเป้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดบรรจุภัณฑ์ในอาเซียนผ่านทางการขยายกำลังการผลิตของบริษัท หรือทำ M&P โดยจะนำรูปแบบการทำธุรกิจแบบบูรณาการในแนวตั้งในประเทศไทยไปใช้ในประเทศอื่นๆ และเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงตลาดสู่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่เติบโตสูงขึ้น

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising