เกิดอะไรขึ้น:
เย็นวานนี้ (3 พฤศจิกายน) บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/63 ที่ 898 ล้านบาท ลดลง 4%YoY และลดลง 12%QoQ แต่ดีกว่าตลาดคาด เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่ต่ำกว่าคาด โดยเฉพาะค่าขนส่งที่ลดลง ประสิทธิภาพโรงงานที่ดีขึ้น รวมถึงค่าพนักงานและค่าใช้จ่ายการตลาดที่ลดลง โดยกำไรสุทธิไตรมาส 3/63 ที่ลดลง YoY มาจากรายได้ไตรมาส 3/63 ที่ลดลง 13%YoY สู่ระดับ 1.0 หมื่นล้านบาท
โดยหลักๆ ถูกฉุดรั้งจากยอดขายในประเทศไทยที่ลดลง 5%YoY (65% ของยอดขาย) เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ซึ่งยังกดดันต่อราคาขายปูนซีเมนต์ให้ปรับตัวลง YoY แต่อย่างไรก็ดี ราคาขายปูนซีเมนต์มีการปรับตัวขึ้น QoQ ซึ่งมาจากการขึ้นราคาของผู้ประกอบการปูนซีเมนต์ในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ขณะที่ปริมาณการขายในเวียดนามหดตัวลงเป็นตัวเลขสองหลัก YoY เนื่องจากรัฐบาลเวียดนามระงับการออกใบอนุญาตก่อสร้างและสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย
นอกจากนี้บริษัทยังได้ปัจจัยบวกชดเชยจากต้นทุนเชื้อเพลิงและค่าขนส่งที่ปรับตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมัน รวมถึงการคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้นและประสิทธิภาพโรงงานที่ดีขึ้น ซึ่งมากพอที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากการบำรุงรักษาเตาเผาปูนซีเมนต์ 2 แห่งในไทย ส่งผลให้ EBIT Margin ปรับตัวขึ้น 50 bps YoY สู่ระดับ 13.6%
สำหรับกำไรสุทธิไตรมาส 3/63 ที่ลดลง QoQ โดยหลักๆ เกิดจากค่าใช้จ่าย SG&A ที่เพิ่มขึ้น QoQ ซึ่งมาจากค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาเตาเผาปูนซีเมนต์ 2 เตาในไตรมาส 3/63 เทียบกับไม่มีค่าใช้จ่ายดังกล่าวในไตรมาส 2/63 รวมถึงยังถูกกดดันจากส่วนแบ่งกำไรที่ลดลง QoQ ซึ่งมาจากผลขาดทุนของ บมจ.ลานนารีซอร์สเซส (LANNA)
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (4 พฤศจิกายน) ราคาหุ้น SCCC ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น 3.78%DoD สู่ระดับ 123.50 บาท เทียบกับ SET Index ที่ปรับตัวขึ้นเพียง 1.11 จุด หรือ 0.09%DoD สู่ระดับ 1,222.44 จุด
มุมมองระยะสั้น:
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/63 SCBS คาดจะปรับตัวดีขึ้น YoY โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากต้นทุนเชื้อเพลิงและค่าขนส่งที่ต่ำลง ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ลดลง เนื่องจากไม่มีแผนการหยุดซ่อมบำรุงเตาเผาปูนซีเมนต์ในไตรมาส 4/63 อีก แต่อย่างไรก็ดี ผลประกอบการอาจปรับตัวลง QoQ เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล
มุมมองระยะยาว:
ด้านแนวโน้มผลประกอบการปี 2564 SCBS คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากปี 2563 ตามทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามในระยะถัดไปคือราคาต้นทุนเชื้อเพลิงที่มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น และการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรง
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
