เกิดอะไรขึ้น:
นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทิศทางราคาน้ำมันดิบ (WTI) มีความผันผวนอย่างรุนแรงและปรับตัวลงอย่างมาก จากระดับ 61.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สู่ระดับ 22.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 62.6%YTD
โดยสาเหตุหลักเกิดจากทิศทางอุปสงค์ของน้ำมันที่ลดลงเนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้หลายประเทศประกาศปิดการเดินทางระหว่างประเทศ และออกมาตรการอื่นๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด อาทิ การให้ประชาชนทำงานที่บ้าน เป็นต้น
นอกจากนี้ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยลบกดดันจากด้านอุปทานส่วนเกิน หลังจากกลุ่มประเทศโอเปกไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการลดกำลังการผลิตน้ำมันได้ในการประชุมกลุ่มประเทศโอเปกครั้งล่าสุดที่ผ่านมา (5-6 มีนาคม) ทำให้รัสเซียและซาอุดีอาระเบียประกาศเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันและปรับลดราคาขายเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดน้ำมัน
กระทบอย่างไร:
จากทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงกว่า 62.6%YTD ส่งผลให้หุ้นพลังงานอย่างกลุ่มโรงกลั่นปรับตัวลงอย่างรุนแรงเช่นกัน นำโดย
- บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) ลดลง -60.73%YTD จากระดับ 10.90 บาท สู่ระดับ 4.28 บาท
- บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) ลดลง -58.27%YTD จากระดับ 9.25 บาท สู่ระดับ 3.86 บาท
- บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ลดลง -58.1%YTD จากระดับ 71.00 บาท สู่ระดับ 29.75 บาท
- บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ลดลง -52.32%YTD จากระดับ 59.25 บาท สู่ระดับ 28.25 บาท
- บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ลดลง -50.0%YTD จากระดับ 29.00 บาท สู่ระดับ 14.50 บาท
- บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) ลดลง -47.21%YTD จากระดับ 3.94 บาท สู่ระดับ 2.08 บาท
- ขณะที่ SET Index ลดลง -31.08%YTD จากระดับ 1595.82 บาท สู่ระดับ 1099.76 บาท
หมายเหตุ: ข้อมูลวันที่ 27 มีนาคม 2563
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดว่าทิศทางผลประกอบการไตรมาส 1/63 ของหุ้นกลุ่มโรงกลั่นยังคงน่าเป็นห่วงจากผลการขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันมหาศาลตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงกว่า 62.6%YTD รวมถึงค่าการกลั่น (Gross Refining Margin: GRM) ที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จะยังคงกดดันต่ออัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงกลั่นให้แคบลง ขณะที่ทิศทางอุปสงค์ของน้ำมันสำเร็จรูปทั่วโลกยังคงอ่อนแอจากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งจะกดดันปริมาณการขายสินค้าของธุรกิจโรงกลั่นต่อไป
ในระยะสั้น SCBS คาดว่าทิศทางราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นจะยังคงผันผวนรุนแรงต่อไปจากทิศทางราคาน้ำมันที่ยังไม่ชัดเจน รวมถึงความกังวลจากมาตรการปิดประเทศที่อาจรัดกุมมากขึ้นจากผลกระทบของโควิด-19 ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้จะยังคงเป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตามต่อไป นอกจากนี้ยังต้องติดตามค่าการกลั่นซึ่งเป็นข้อบ่งชี้อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงกลั่น
มุมมองระยะยาว:
SCBS มองว่าธุรกิจกลุ่มโรงกลั่นส่วนใหญ่จะประสบผลขาดทุนสิทธิในปี 2563 จากผลขาดทุนสต๊อกน้ำมันดิบอย่างมหาศาล และอุปสงค์ของน้ำมันกับค่าการกลั่นที่อ่อนแอกดดันต่อราคาสินค้าและปริมาณขาย ทั้งนี้ต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงการเจรจาด้านการผลิตน้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้มีอิทธิพลต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบในอนาคตอย่างมาก
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- ค่าการกลั่น (Gross Refining Margin: GRM) คือส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันสำเร็จรูป ณ โรงกลั่น หักด้วยต้นทุนน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงกลั่นได้
- %YTD คือ % การเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่ต้นปี
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า