เกิดอะไรขึ้น:
InnovestX Research ประเมินพรีวิวผลประกอบการ 4Q67 ของ บมจ. ปตท. (PTT) ซึ่งคาดว่าจะประกาศใน 20 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะปรับตัวลดลง 73%YoY และ 46%QoQ มาอยู่ที่ 8.8 พันล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากกำไรที่ลดลงจากกลุ่มธุรกิจก๊าซจากผลกระทบตามฤดูกาล ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากกลุ่มธุรกิจ P&R ยังคงอ่อนแอ นอกจากนี้กำไรสุทธิยังจะได้รับแรงกดดันจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและตราสารอนุพันธ์ที่ลดลงมาก YoY และ QoQ ด้วย
ปริมาณการขายก๊าซน่าจะลดลง 5.8%YoY และ 6.5%QoQ มาอยู่ที่ 4,008 mmcfd (ปริมาณการขายรายไตรมาสที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565) โดยเกิดจากความต้องการใช้ก๊าซจากกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ลดลง 11%YoY และ QoQ ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบตามฤดูกาล แต่จะถูกชดเชยโดยปริมาณก๊าซที่ขายให้กับโรงแยกก๊าซเพิ่มขึ้น โดยโรงแยกก๊าซเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตจาก 83.7% ใน 3Q67 มาอยู่ที่ 84.8% ใน 4Q67 เนื่องจากอุปทานก๊าซจากอ่าวไทยเพิ่มขึ้น
ปริมาณการขายของธุรกิจโรงแยกก๊าซ (GSP) เพิ่มขึ้น 5.5%YoY แต่ลดลง 3.9%QoQ มาอยู่ที่ 1.68 ล้านตัน โดยได้แรงหนุนจากปริมาณการขายก๊าซอีเทน เนื่องจากอุปทานก๊าซจากอ่าวไทยเพิ่มขึ้นหลังจากปิดซ่อมบำรุงใน 3Q67 กำไรของกลุ่มธุรกิจ E&P อยู่ในระดับทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น 2%QoQ เนื่องจากปริมาณการขายที่สูงขึ้นจะถูกหักล้างโดย ASP ที่ลดลง กลุ่มธุรกิจก๊าซและกลุ่มธุรกิจ E&P น่าจะยังคงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนกำไรจากการดำเนินงานใน 4Q67
กลุ่มธุรกิจน้ำมันพลิกกลับมามีกำไรใน 4Q67 โดยได้แรงหนุนจากกำไรขั้นต้นต่อลิตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.83 บาทต่อลิตร (เพิ่มขึ้น 63%QOQ) ของกลุ่ม Mobility เนื่องจากขาดทุนสต็อกลดลง แม้ว่าการแข่งขันยังคงรุนแรง ปริมาณการขายน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.4%YoY และ 9.3%QoQ สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.08 พันล้านลิตรใน 4Q67 โดยได้แรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันตามฤดูกาลทั้งในกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มพาณิชย์ ซึ่งช่วยชดเชยผลการดำเนินงานที่อ่อนแอของบริษัทร่วมที่ประกอบธุรกิจ P&R โดยเฉพาะธุรกิจปิโตรเคมีซึ่งรายงานขาดทุนสุทธิใน 4Q67 จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนแอและการบันทึกขาดทุนจากการด้อยค่า
กำไร 4Q67 ที่อ่อนแอ ทำให้คาดว่ากำไรเต็มปี 2567 น่าจะต่ำกว่าระดับคาดการณ์ไว้ราว 14% (คาดกำไรปี 2567 ที่ 104.32 พันล้านบาท)
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น PTT ปรับลง 0.80% สู่ 31.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 5.99% สู่ 1,272.10 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
InnovestX Research คาดว่าปริมาณการขายของกลุ่มธุรกิจก๊าซจะฟื้นตัว QoQ หลังจากช่วงโลว์ซีซันใน 4Q67 ซึ่งน่าจะช่วยสนับสนุนให้ EBITDA ของธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติและธุรกิจ GSP ปรับตัวเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันกำไรของกลุ่มธุรกิจ E&P จะอ่อนตัวลง QoQ จากปริมาณการขายที่ลดลง
ขณะที่ราคาน้ำมันอาจสร้าง upside ให้กับผลการดำเนินงานของกลุ่ม เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวเพิ่มขึ้น 7%QoQ และ PTTEP คาดการณ์ว่าราคาก๊าซอาจเพิ่มขึ้น 1-2%QoQ ความเสี่ยงที่สำคัญยังคงอยู่ที่ market GRM ที่อ่อนแอของกลุ่มธุรกิจ P&R ใน 1Q68 โดย Singapore GRM ลดลง 54%QoQ มาอยู่ที่ 2.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ทั้งนี้แม้ว่ากำไรจะลดลงใน 4Q67 แต่ยังคงคำแนะนำ Outperform สำหรับ PTT เนื่องจากราคาหุ้นมี Upside ที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ 41 บาทต่อหุ้น ซึ่งประเมินได้จากวิธี Sum-of-the-Parts ราคาหุ้น PTT ในปัจจุบันไม่แพง โดยซื้อขายที่ P/BV (ปี 2568) ระดับ 0.7 เท่า และ P/E 7.5 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 1.3 เท่า และ 14.6 เท่า และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจที่ 6.6%
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์พลังงานและปิโตรเคมีของ PTT ในขณะที่ความผันผวนของราคาน้ำมันอาจทำให้มีขาดทุนสต็อกมากขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ คือ การด้อยค่าของสินทรัพย์ ขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และรัฐบาลแทรกแซงธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน
ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญคือ ผลกระทบของธุรกิจต่อสิ่งแวดล้อม และการปรับตัวในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด
CafeInvest แหล่งรวมข้อมูลการลงทุน และบทวิเคราะห์คุณภาพ โดย InnovestX 🚀 คลิกเลย 👉
https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/research/company-analysis/company-update/ptt-update-20250213