×

OR – 1Q68 กำไรแข็งแกร่งตามคาด

10.05.2025
  • LOADING...
OR

เกิดอะไรขึ้น:

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) รายงานกำไรสุทธิ 4.3 พันล้านบาท ใน 1Q68 เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งได้รับปัจจัยหนุนจากมาร์จิ้นที่สูงขึ้นของกลุ่มธุรกิจ Mobility และกลุ่มธุรกิจ Lifestyle แม้ว่าปริมาณการขายน้ำมันลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล กำไรจากการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจ Mobility เพิ่มขึ้น 76% QoQ (แต่ยังคงลดลง 4% YoY) 

 

โดยได้แรงหนุนจากกำไรขั้นต้น/ลิตรที่เพิ่มขึ้น 23% QoQ มาอยู่ที่ 1.02 บาทต่อลิตร แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากขาดทุนสต๊อกจำนวน 125 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึง lag time ในการปรับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานตามราคา spot น้ำมัน และสัดส่วนปริมาณการขายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 20% ใน 1Q68 จาก 16% ในปี 2567 

 

ปริมาณการขายน้ำมันของ OR ลดลง 5% QoQ มาอยู่ที่ 6.7 พันล้านลิตรใน 1Q68 ชะลอตัวลงจากปริมาณการขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใน 4Q67 จากผลกระทบตามฤดูกาล ซึ่งหลักๆ เกิดจากธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน (ลดลง 11% QoQ) ยอดขายธุรกิจตลาดเชิงพาณิชย์ลดลงในอัตราช้าลงที่ 1% QoQ เนื่องจากความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินช่วยสนับสนุนปริมาณการขายโดยรวมอย่างต่อเนื่อง

 

กำไรของกลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้น 16.8% YoY และ 17.5% QoQ สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.3 พันล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจาก EBITDA margin ที่แข็งแกร่งขึ้น โดยเพิ่มขึ้นจาก 25.5% ใน 4Q67 มาอยู่ที่ 29.9% ใน 1Q68 จากการยุติธุรกิจที่ผลประกอบการไม่เป็นไปตามแผนใน 2H67 

 

หลักๆ คือแฟรนไชส์ Texas Chicken ความสามารถในการทำกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นที่ธุรกิจ health and wellness (Found & Found) ที่แม้ว่ายังคงมีผลขาดทุน (ขาดทุน ~40 ล้านบาท) ก็ช่วยสนับสนุน EBITDA margin ใน 1Q68 ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและการเปิดสาขาเพิ่ม 3 สาขา เป็น 8 สาขา ภายในสิ้น 1Q68 

 

ปริมาณขายที่ร้าน Café Amazon เพิ่มขึ้น 1% QoQ สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 104 ล้านแก้วจากความต้องการตามฤดูกาลและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย รวมถึงการขยายสาขาเพิ่มขึ้น (เพิ่มขึ้น 1.7% QoQ) แต่จำนวนแก้วที่ขายได้ต่อสาขาลดลง 0.8% QoQ

 

กระทบอย่างไร:

หลังรายงานผลประกอบการ 1Q68 ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ราคาหุ้น OR ปรับลง 1.40%DoD สู่ 14.30 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 0.50%DoD สู่ 1,201.02 จุด 

 

แนวโน้มผลประกอบการระยะสั้น:

InnovestX Research คาดว่ากำไรปกติจะอ่อนตัวลง QoQ ใน 2Q68 จากปริมาณการขายที่ทรงตัวถึงลดลงเล็กน้อยในกลุ่มธุรกิจ Mobility และอัตรากำไรขั้นต้นต่อลิตร (ไม่รวมขาดทุนสต๊อก) ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากการจัดแคมเปญการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจค้าปลีก 

 

แม้ว่าจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากมาร์จิ้นที่สูงขึ้นของน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ขณะที่คาดว่าปริมาณขายของร้าน Café Amazon จะเพิ่มขึ้น QoQ จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย ในขณะที่ EBITDA margin ของกลุ่มธุรกิจ Lifestyle น่าจะอยู่ในระดับปกติที่ 25-27%

 

กลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ OR โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 16.40 บาทต่อหุ้น อิงกับ EV/EBITDA ที่ 8.4 เท่า ซึ่งเทียบเท่าส่วนลด 30% จาก EV/EBITDA เฉลี่ย 5 ปีที่ 12 เท่า สะท้อนถึงสมมติฐานกำไรขั้นต้นต่อลิตรตามหลักความระมัดระวังที่ 0.85 บาท เทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1 บาทต่อลิตร 

 

และ EBITDA margin ของกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ที่ 25% เทียบกับเป้าของ OR ที่ 26-28% ราคาเป้าหมายคิดเป็น PE (ปี 2568) ที่ 16.7 เท่า ซึ่งต่ำกว่า PE เฉลี่ย 3 ปี สำหรับปี 2565-2567 ที่ 24 เท่า และ PBV ที่ 1.7 เท่า เทียบกับ PBV เฉลี่ยปี 2565-2567 ที่ 2.2 เท่า

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่น้ำมันของ OR ในขณะที่ความผันผวนของราคาน้ำมันอาจทำให้มีขาดทุนสต๊อกมากขึ้น ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ คือ การแทรกแซงของรัฐบาลในการกำหนดเพดานราคาขายปลีกน้ำมัน (โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล) และการแข่งขันที่สูงขึ้น รวมถึงต้นทุนการดำเนินงานที่ไม่สามารถส่งผ่านไปยังลูกค้าได้  

 

OR – 1Q68 กำไรแข็งแกร่งตามคาด

https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/research/company-analysis/company-update/or-update-20250509 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising