เกิดอะไรขึ้น:
วานนี้ (8 มิถุนายน) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง 5.45% DoD สู่ระดับ 38.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากมีรายงานว่ารัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า จะเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนกรกฎาคม ตามโควตาการผลิตน้ำมันของประเทศ โดยในก่อนหน้านี้ซาอุฯ ได้ปรับลดกำลังการผลิตลงเกินกว่าที่ตกลงไว้ จึงทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันต่ำกว่าโควตาที่ได้รับอนุญาตให้ผลิต
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (9 มิถุนายน 2563) SET Index ปรับตัวลง 30.29 จุด หรือลดลง 2.11% DoD สู่ระดับ 1,408.37 จุด สวนทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้น โดยมีหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่ปรับลงแรงกดดันต่อดัชนีได้แก่
- ราคาหุ้น บมจ. ปตท. (PTT) ปรับลง 4.29% DoD สู่ระดับ 39.00 บาท
- ราคาหุ้น บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ปรับลง 5.91% DoD สู่ระดับ 95.50 บาท
- ราคาหุ้น บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ปรับลง 4.88% DoD สู่ระดับ 48.75 บาท
- ราคาหุ้น บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ปรับลง 5.38% DoD สู่ระดับ 30.75 บาท
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดว่าตลาดหุ้นไทย (SET) จะชะลอความร้อนแรงลงหลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแนวรับสำคัญมองไว้ที่ระดับ 1,374 จุด ซึ่งหากดัชนีหลุดแนวรับสำคัญนี้จะแสดงถึงสัญญาณการปรับฐาน
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คือการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (เฟด) ในวันพรุ่งนี้ (10 มิถุนายน 2563) ซึ่งตลาดกำลังจับตาว่าเฟดจะออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินที่เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่
มุมมองระยะยาว:
SCBS มองว่าตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าพื้นฐาน (Valuation) ที่ตึงตัว และมีแรงเก็งกำไรสูง โดยปัจจุบันตลาดหุ้นไทยซื้อขายที่ P/E 63F ราว 21.6 เท่า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาค ขณะที่แนวโน้มภาพรวมผลประกอบการยังคงอ่อนแอจากผลกระทบของโควิด-19 โดย Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไรปี 2563 ของ SET ไว้ที่หดตัว 24.2% YoY
นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบกดดันต่อภาพรวมการลงทุนทั่วโลก รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกที่ยังคงรุนแรง ดังนั้นนักลงทุนควรระมัดระวังมากขึ้นท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงที่รุมเร้า และ Valuation ที่แพงเกินพื้นฐานแล้ว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์