เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวานนี้ (5 กรกฎาคม) ที่ประชุมคณะกรรมการ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 647 ล้านหุ้นของ บมจ.สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ (SF) ซึ่งคิดเป็น 30.36% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ SF จาก บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ในราคาซื้อขายหุ้นละ 12 บาท คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 7.8 พันล้านบาท
โดยการซื้อหุ้นสามัญของ SF ครั้งนี้จะส่งผลทำให้ CPN มีสัดส่วนการถือหุ้นสามัญใน SF เพิ่มขึ้นสู่ 673 ล้านหุ้น (31.57%) ซึ่งธุรกรรมการซื้อหุ้น SF คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2564
ภายหลังการเข้าทำธุรกรรมการซื้อหุ้น SF เสร็จสิ้น CPN มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ SF ในราคาเดียวกันกับราคาซื้อขายตามสัญญาซื้อขายหุ้นที่ราคาหุ้นละ12 บาท ภายในวงเงินประมาณ 1.78 หมื่นล้านบาท หลังจากการทำคำเสนอซื้อ CPN อยู่ระหว่างศึกษาซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการเพิกถอน SF ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยเหตุผลที่ CPN เข้าซื้อหุ้น SF คือ เพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนในรูปแบบต่างๆ (สินทรัพย์ของ SF ประกอบด้วยคอมมูนิตี้มอลล์ (ส่วนใหญ่เป็นสิทธิ์การเช่า) และโครงการร่วมทุนกับ IKEA (เมกาบางนา ถือกรรมสิทธิ์)) ด้วยกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ การรับรู้ Synergy จากการผนึกพลังระหว่าง CPN กับ SF ในการบริหารจัดการศูนย์การค้าขนาดใหญ่ (เมกาบางนา และเซ็นทรัลเวสต์เกต) และความเชี่ยวชาญของ SF ในการบริหารจัดการศูนย์การค้าขนาดเล็ก (คอมมูนิตี้มอลล์) การพัฒนาโครงการที่มีศักยภาพในที่ดิน 3 แห่งที่มีอยู่ของ SF (มากกว่า 100 ไร่) ในรังสิต บางใหญ่ และบางนา
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (6 กรกฎาคม) ราคาหุ้น CPN ปรับตัวขึ้น 1.93%DoD สู่ระดับ 52.75 บาท ราคาหุ้น SF ปรับตัวลงเล็กน้อย 0.86%DoD สู่ระดับ 11.50 บาท และราคาหุ้น MAJOR ปรับตัวลง 12.08%DoD สู่ระดับ 22.20 บาท (ข้อมูล ณ เวลา 12.30 น.)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS ประเมินต้นทุนทางการเงินได้ที่ 2-3% ต่อปี ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นของ SCBS พบว่า หาก CPN ถือหุ้น 32% ใน SF ใน 4Q64 ดีลนี้จะช่วยหนุนต่อประมาณการกำไรในปี 2565 ของ CPN เพิ่มขึ้นอีก 4% และหากถือหุ้น 100% ใน SF ดีลนี้จะช่วยหนุนต่อกำไรปี 2565 ของ CPN ได้ราว 12-14% (ประมาณการกำไรของ CPN และ SF อิงจาก Bloomberg Consensus) ซึ่งยังไม่รวม Synergy ทางธุรกิจเข้ามา
ทั้งนี้ ธุรกรรมดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของ MAJOR แต่ไม่ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของ CPN
มุมมองระยะยาว:
CPN อยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เวียดนาม ซึ่งคาดว่าช่วงต้นปี 2565 จะเห็นความชัดเจน และถือเป็นการขยายการลงทุนในต่างประเทศครั้งแรกของ CPN นอกจากนี้ CPN ยังมีแผนลงทุนในโครงการมิกซ์ยูสบนถนนวิทยุ (CPN ถือหุ้น 25%) ซึ่ง CPN ตั้งงบลงทุนสำหรับโครงการนี้ไว้ 1.4 หมื่นล้านบาทในช่วง 5-6 ปี\
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล