เกิดอะไรขึ้น:
วานนี้ (16 ตุลาคม) บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) บริษัทในเครือเซ็นทรัลโฮลดิ้ง ได้เปิดเผยถึงแผนลงทุนระยะเวลา 3 ปี (ปี 2563-2565) โดยจะใช้เงินลงทุนกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท ลงทุนใน 17 โครงการ แบ่งเป็น
- โครงการ Mixed Use ใหม่ 3 แห่งคือ 1. เซ็นทรัล พลาซา อยุธยา มูลค่าลงทุน 6.2 พันล้านบาท คาดเปิดให้บริการได้ไตรมาส 2 ปี 2564 โดยจะวางตำแหน่งให้เป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยว การจับจ่ายใช้สอย และการพักผ่อน ครอบคลุมพื้นที่ภาคกลางตอนบน 2. เซ็นทรัล พลาซา ศรีราชา มูลค่าลงทุน 4.2 พันล้านบาท คาดเปิดให้บริการไตรมาส 2 ปี 2564 ภายใต้แนวคิดเป็นศูนย์กลางเมืองอุตสาหกรรมใหม่ในพื้นที่ EEC และ 3. เซ็นทรัล พลาซา จันทบุรี มูลค่าลงทุน 3.5 พันล้านบาท คาดเปิดให้บริการไตรมาส 2 ปี 2565 วางคอนเซปต์ให้เป็นศูนย์การค้าในเมืองที่เชื่อมโยง EEC ที่กำลังเติบโต
- ปรับโฉมใหม่ศูนย์การค้าบนทำเลศักยภาพของกรุงเทพ 2 แห่งคือ 1. เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 งบลงทุน 1.5 พันล้านบาท คาดแล้วเสร็จไตรมาส 1 ปี 2564 และ 2. เซ็นทรัลพลาซา รามอินทรา งบลงทุน 1.6 พันล้านบาท คาดแล้วเสร็จไตรมาส 4 ปี 2564
- ปรับปรุงและขยายพื้นที่ศูนย์การค้า 12 แห่งทั่วประเทศคือ เซ็นทรัลพลาซา พระราม 9, เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์, เซ็นทรัลพลาซา บางนา, เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ, เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น, เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี, เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่, เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่แอร์พอร์ต, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช, เซ็นทรัลมารีนา, เซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย และเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่
นอกจากนี้ผู้บริหาร CPN ยังระบุอีกว่า การวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจดังกล่าวเป็นไปเพื่อให้สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ของประเทศ ทั้งในส่วนของการท่องเที่ยว การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโครงข่ายคมนาคมและภาคการค้า โดยให้โครงการ Mixed Use แต่ละแห่งเปรียบเสมือน ‘Center of Life’ หรือศูนย์กลางการใช้ชีวิตของทุกจังหวัด
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (17 ตุลาคม) ราคาหุ้น CPN ตอบรับในเชิงบวก โดยปิดที่ 64.75 บาท ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของวัน จากราคาปิดวันก่อนหน้าที่ 63.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2.0%DoD ด้วยมูลค่าการซื้อขายวันนี้หนาแน่นกว่า 900 ล้านบาท มากกว่ามูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้าที่ไม่ถึง 350 ล้านบาทต่อวัน
มุมมองระยะสั้น:
SCBS มองแผนการลงทุนของ CPN ข้างต้นเป็นไปตามที่บริษัทเคยประกาศไว้ ซึ่งจะเน้นโครงการ Mixed Use มากขึ้น เพื่อจะสามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินได้อย่างเต็มศักยภาพ (จากเดิมที่พัฒนาโครงการศูนย์การค้าเป็นหลัก) โดยแม้คาดแผนการลงทุนดังกล่าวจะส่งผลดีและช่วยผลักดันผลการดำเนินงานของ CPN ให้เติบโต คงยังต้องใช้เวลาหรือเป็นเรื่องของผลบวกในระยะยาว แต่อย่างไรก็ดี การที่ CPN ออกมาเปิดเผยให้นักลงทุนทราบถึงความชัดเจนหรือทิศทางของแผนการลงทุนในอนาคตนับว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกทางจิตวิทยาต่อราคาหุ้นในช่วงสั้นนี้
ส่วนแผนการลงทุนในช่วงที่เหลือของปี 2562-2563 แม้ CPN จะไม่มีแผนเปิดศูนย์การค้าใหม่ในไทยเพิ่ม หลังเพิ่งเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล วิลเลจ เฟส 1 ไปเมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2562 และมีแผนเน้นปรับปรุงศูนย์การค้าเดิมและการโอนคอนโดมิเนียมใหม่มากกว่า แต่ช่วงครึ่งปีหลังนี้คาดว่า CPN จะยังมีผลการดำเนินงานเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ จากการรับรู้รายได้จากศูนย์การค้าใหม่ที่เปิดในช่วงที่ผ่านมาและการโอนคอนโดมิเนียม รวมทั้งจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและบริโภคของภาครัฐ
มุมมองระยะยาว:
ติดตามความคืบหน้าของแผนการลงทุนของ CPN ข้างต้น ซึ่งการเปิดให้บริการในแต่ละโครงการใหม่คาดจะเป็นผลบวกต่อผลการดำเนินงานและมูลค่าพื้นฐานของราคาหุ้น CPN ในระยะยาว รวมทั้งจะช่วยตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำธุรกิจพัฒนาศูนย์การค้าปลีกแบบครบวงจรขนาดใหญ่ในไทย
ข้อมูลพื้นฐาน:
บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ประกอบธุรกิจพัฒนาและให้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และประกอบธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องและส่งเสริมการประกอบธุรกิจพัฒนาและให้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้า เช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม ที่พักอาศัย และศูนย์อาหาร รวมถึงการลงทุนในกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (CPNCG) และทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (CPNREIT) และเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของกองทุนรวมฯ และกองทรัสต์ฯ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า