เกิดอะไรขึ้น:
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ได้เตรียมออกแนวทางกำกับธนาคารพาณิชย์ให้ปรับปรุงค่าธรรมเนียมบริการทางการเงินต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแผนงานกำกับดูแลด้านการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market Conduct) เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและเป็นธรรมกับผู้ใช้บริการทางการเงินมากขึ้น
ซึ่ง ธปท. เผยว่า มีข้อร้องเรียนจากผู้ใช้บริการทางเงินค่อนข้างมาก จากการสำรวจของ ธปท. พบว่า ธนาคารพาณิชย์บางส่วนยังมีการเก็บค่าธรรมเนียมที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการ SME ซึ่งปัจจุบันค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์มีมากถึง 200-300 รายการ โดยค่าธรรมเนียมที่ผู้ประกอบการ SME ถูกเรียกเก็บจากธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมวิเคราะห์โครงการ ค่าธรรมเนียมชำระเงินกู้ยืมก่อนกำหนด และค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้
ทั้งนี้ ธปท. คาดว่าจะออกแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการปรับปรุงค่าธรรมเนียมใหม่ในช่วงต้นปี 2563 และจะเริ่มสุ่มตรวจช่วงกลางปี 2563 เพื่อตรวจสอบว่าธนาคารพาณิชย์มีการคิดค่าธรรมเนียมอย่างเป็นธรรมหรือไม่
กระทบอย่างไร:
วันพุธที่ผ่านมา (4 ธันวาคม) ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลงอย่างมาก พร้อมด้วยแรงเทขายที่หนาแน่น นำโดยราคาหุ้น บมจ.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ลดลง 3.29%DoD, บมจ.ธนาคารทหารไทย (TMB) ลดลง 3.21%DoD, บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ลดลง 2.02%DoD, บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ลดลง 1.67%DoD
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดว่าการจัดระเบียบค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์ครั้งนี้มีผลน้อยกระทบน้อยมากต่อผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวอยู่แล้ว รวมถึงประเด็นที่ ธปท. จะกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ทยอยรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมในการขอสินเชื่อตามอายุของสินเชื่อ ก็มีผลกระทบน้อยมากต่อผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์เช่นกัน ดังนั้นการที่ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลงแรงครั้งนี้ SCBS เชื่อว่าตลาดตอบรับข่าวนี้มากเกินไป
มุมมองระยะยาว:
สำหรับหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในระยะยาวควรจับตาคุณภาพของสินเชื่อ หลังจากเริ่มเห็นสัญญาณเร่งตัวของ NPL เพิ่มขึ้น รวมถึงส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มแคบลง ซึ่งจะกดดันต่อผลการดำเนินงานกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงไปเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า