เกิดอะไรขึ้น:
ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (14-15 มีนาคม) ประชาชนจำนวนมากแห่กักตุนสินค้าที่ห้างสรรพสินค้า เช่น เทสโก้ โลตัส, แม็คโคร และบิ๊กซี โดยสินค้าที่ประชาชนนิยมกักตุนมากที่สุด ได้แก่ ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง น้ำดื่ม ไข่ไก่ รวมถึงสินค้าอุปโภคและบริโภคอื่นๆ ทั้งนี้การกักตุนสินค้าเกิดขึ้นหลังจากที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 147 ราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อที่รักษาหายแล้วมีจำนวน 38 ราย และยอดผู้เสียชีวิต 1 ราย
ขณะที่ทาง บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ซึ่งมี บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้ออกมาเปิดเผยว่า “บิ๊กซีได้เตรียมความพร้อมรับมือการซื้อสินค้ากักตุนของผู้บริโภคในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ล่วงหน้าตั้งแต่เริ่มมีการระบาด จึงช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่จะมาซื้อสินค้าได้ที่บิ๊กซี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ทั้งกลุ่มอาหาร เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม รวมถึงกลุ่มอุปกรณ์ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคต่างๆ เช่น น้ำยาทำความสะอาด เจลล้างมือ”
กระทบอย่างไร:
ราคาหุ้นวันนี้ (16 มีนาคม)
- บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ปรับขึ้นอยู่ที่ระดับ 33.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.27%DoD
- บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) ปรับขึ้นอย่างโดดเด่นในช่วงเช้า โดยทำจุดสูงสุดที่ 31.00 บาท ก่อนที่จะกลับมาปิดในแดนลบที่ระดับ 29.00 บาท ลดลง 0.85%DoD
ขณะที่ตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปรับตัวลงอย่างรุนแรงอีกครั้งอยู่ที่ระดับ 1,046.08 จุด ลดลง 82.83 จุด หรือลดลง 7.34%DoD
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดว่าในระยะสั้นราคาหุ้น BJC และ MAKRO จะยังได้รับเซนทิเมนต์เชิงบวกต่อไปจากการที่ประชาชนแห่กักตุนสินค้าท่ามกลางความกังวลด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงจะช่วยชดเชยยอดขายสาขาเดิมในไตรมาส 1 ปี 2563 ที่ชะลอตัวลงตามทิศทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแอได้
อีกทั้งจะเป็นแรงหนุนต่อทิศทางผลประกอบการในช่วงแรกของไตรมาส 2 ปี 2563 ได้เล็กน้อย ทั้งนี้ภายหลังจากการกักตุนสินค้าเสร็จสิ้น ประชาชนอาจใช้จ่ายน้อยลง ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงกดดันต่อทิศทางผลประกอบการในอนาคตได้
มุมมองระยะยาว:
SCBS มองว่าภาพการลงทุนโดยรวมจะมีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้นหลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เบาบางลง โดยประเมินว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกจะเริ่มเบาบางลงหลังจากเดือนพฤษภาคม 2563 เนื่องจากอุณหภูมิโลกที่เริ่มอุ่นขึ้น และการคิดค้นวัคซีนป้องกันชนิดใหม่จะช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้
อย่างไรก็ดี เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีนลดลง จึงทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศจีนนิ่งอยู่ที่ระดับ 80,860 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อที่กำลังรักษาเหลือเพียง 9,898 ราย
ข้อมูลเพิ่มเติม:
หมายเหตุ %DoD คือเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับวันทำการก่อนหน้า