AOT รายงานผลขาดทุน 1QFY64 แย่กว่าตลาดคาด และมีแนวโน้มขาดทุนต่อเนื่องจนถึง 3QFY64

เกิดอะไรขึ้น:

เมื่อวานนี้ (10 กุมภาพันธ์) บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) รายงานผลประกอบการ 1QFY64 มีผลขาดทุนสุทธิที่ 3.4 พันล้านบาท ลดลงจากมีกำไรสุทธิ 7.3 พันล้านบาท ใน 1QFY63 และขาดทุนต่อเนื่องจาก 4QFY63 ที่ 3.7 พันล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 17%

โดยผลประกอบการที่ยังอ่อนแอมาจากการหายไปของผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ลดลง 99%YoY แต่เพิ่มขึ้น 3%QoQ ส่งผลให้รายได้ที่เกี่ยวกับกิจการการบิน (ค่าบริการผู้โดยสารและค่าบริการสนามบิน) และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (รายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์) ปรับตัวลดลง

กระทบอย่างไร:

วันนี้ (11 กุมภาพันธ์) ราคาหุ้น AOT ปรับตัวลง 1.18%DoD สู่ระดับ 63.00 บาท ในทิศางเดียวกันกับ SET Index ที่ปรับตัวลง 10.66 จุด หรือลดลง 0.70%DoD สู่ระดับ 1,506.28 จุด (ข้อมูล ณ เวลา 12.30 น.)

มุมมองระยะสั้น:

ในระยะสั้นแนวโน้มธุรกิจของ AOT อาจเผชิญความผันผวนจากความไม่แน่นอนของการระบาดของโควิด-19 แต่ SCBS เชื่อว่า Downside Risk ของผลประกอบการเริ่มจำกัด เพราะมีวัคซีนต้านโควิด-19 ที่พร้อมใช้งานแล้ว สำหรับปัจจัยสนับสนุนที่ต้องติดตามในระยะสั้นคือ การที่ประเทศต่างๆ เริ่มกลับมาเปิดการเดินทางระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ภาคการท่องเที่ยวและผลประกอบการของ AOT ฟื้นตัวได้อย่างชัดเจนมากขึ้น

มุมมองระยะยาว:

SCBS คาดว่าผลประกอบการของ AOT จะขาดทุนอย่างต่อเนื่องไปจนถึง 3QFY64 (เมษายน-มิถุนายน 2564) โดยอิงตามสมมติฐานที่คาดว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวดีขึ้นใน 2H64 สำหรับแนวโน้มกำไรสุทธิตลอดทั้งปี FY2564 ของ AOT SCBS คาดว่าจะยังขาดทุน 8.9 พันล้านบาท อิงตามสมมติฐานจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศอยู่ที่ 3 ล้านคน

และจะพลิกกลับมามีกำไรที่ระดับ 1.5 หมื่นล้านบาท ในปี FY2565 โดยอิงสมมติฐานจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นสู่ 50.8 ล้านคน หลังจากมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง ซึ่งจะทำให้หลายๆ ประเทศกลับมาเปิดประเทศโดยไม่มีข้อจำกัดการเดินทาง

สำหรับงบลงทุน AOT วางแผนใช้งบลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาทในปี FY2564 และ 2.5 หมื่นล้านบาทในปี FY2565 เพื่อขยายสนามบิน และโครงการสร้างรันเวย์เส้นที่ 3 (หลักๆ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ) โดย AOT จะใช้กระแสเงินสดภายในกิจการเป็นแหล่งเงินทุนในปี FY2564 และวางแผนจัดหาเงินกู้มาใช้ในปี FY2565