×

5 ประเด็นสำคัญที่ Mark Zuckerberg ขึ้นให้การเป็นพยานต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ ยกแรก

11.04.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

6 Mins read
  • มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งสื่อสังคมออนไลน์ Facebook ขึ้นให้การในฐานะพยานต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ ทั้ง 44 คน ยกแรก เพื่อชี้แจงกรณีข้อพิพาทต่างๆ ของ Facebook โดยประเด็นใหญ่สุดคือการปล่อยให้ข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้หลุดไปยัง Cambridge Analytica มากถึง 87 ล้านราย
  • มาร์กยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของ Facebook และถือเป็นความผิดของตนแต่เพียงผู้เดียวที่ไม่ได้ระวังมากพอ จนผู้ไม่หวังดีใช้โซเชียลมีเดียที่ตนสร้างขึ้นมาไปแสวงหาประโยชน์ในทางที่ผิด ทั้งการสร้างข่าวปลอม แทรกแซงการเลือกตั้ง หรือสาดถ้อยคำแสดงความเกลียดชังใส่กัน
  • ยืนยันว่า Facebook ไม่ได้ผูกขาดในด้านการให้บริการ และกำลังอยู่ในระหว่างพัฒนาอาวุธป้องกันข้อมูลผู้ใช้กับรัสเซีย นอกจากนี้ด้วยความตั้งใจจะเป็นฟรีแพลตฟอร์ม โมเดลการซื้อโฆษณาจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
  • หุ้นของ Facebook ขยับขึ้นเกือบ 5% ระหว่างมาร์กกำลังขึ้นให้การ โดยมีมูลค่าเกือบ 165.59 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ก่อนปิดตลาดที่ 165.04 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น (+4.5% จากช่วงเปิดตลาด) สะท้อนให้เห็นภาพรวมความเชื่อใจของผู้ถือหุ้นที่เริ่มกลับมาบางส่วน

บ่ายวันอังคารที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งสื่อสังคมออนไลน์ Facebook วัย 33 ปี ได้ขึ้นให้การในฐานะพยานต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ ในยกที่ 1 เพื่อชี้แจงกรณีข้อพิพาทต่างๆ ของ Facebook ท่ามกลางสื่อมวลชนที่เดินทางมาทำข่าวเป็นจำนวนมาก ณ​ อาคารสำนักงานวุฒิสภา Hart กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

 

 

ในยกแรกนี้ มาร์กต้องให้การและตอบคำถามวุฒิสภาสหรัฐฯ ทั้ง 44 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการตุลาการวุฒิสภา (The Senate Judiciary Committee) และคณะกรรมการวุฒิสภาการพาณิชย์, วิทยาศาสตร์และการคมนาคม (The Senate Commerce, Science and Transportation Committee) ถึงประเด็นที่ Facebook ทำข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานหลุดไปยังบริษัท Cambridge Analytica ในสหราชอาณาจักร รวม 87 ล้านรายชื่อ และประเด็นอื่นๆ ที่แพลตฟอร์มถูกตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในการให้บริการ

 

 

มาร์กได้ตอบคำถามของวุฒิสภาสหรัฐฯ ในหลายๆ ประเด็น เริ่มต้นด้วยการกล่าวถ้อยแถลงคำขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใจความบางส่วนมีดังนี้

 

“เห็นได้ชัดว่าเราไม่ได้พยายามมากพอเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องมือเหล่านี้ถูกใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมจนเกิดเป็นข่าวปลอม การแทรกแซงการเลือกตั้งจากต่างประเทศ และถ้อยคำแสดงความเกลียดชัง เช่นเดียวกับประเด็นพิพาทนักพัฒนาโปรแกรมและข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งาน พวกเราไม่ได้มีมุมมองที่กว้างพอต่อการรับผิดชอบของเรา นี่คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ และถือเป็นความผิดพลาดของผมเอง ผมต้องขออภัยต่อส่ิงที่เกิดขึ้น มันอาจจะกินเวลาสักระยะเพื่อดำเนินงานตามการเปลี่ยนแปลงในส่ิงที่ควรจะต้องเปลี่ยน แต่ผมมุ่งมั่นที่จะทำให้มันถูกต้อง”

 

 

5 ประเด็นสำคัญที่วุฒิสภาถาม-มาร์กตอบ

เนื่องจากการขึ้นให้การในครั้งแรกนี้กินระยะเวลากว่า 5 ชั่วโมงเต็ม เราจึงคัดเลือกเฉพาะประเด็นเด็ดที่น่าสนใจ เพื่อสรุปใจความสำคัญการตอบคำถามวุฒิสภาของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ในครั้งนี้

 

 

1. Facebook ยังเป็นแพลตฟอร์มฟรีเพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วโลกได้เข้าถึง โมเดลขายโฆษณาจึงเลี่ยงไม่ได้

Q: “Facebook กำลังพิจารณาให้ผู้ใช้จ่ายเงินเพื่อบล็อกการแสดงผลโฆษณาที่ไม่ต้องการเห็นอยู่หรือเปล่า” – บิล เนลสัน วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต ฟลอริดา

A: “เราไม่ได้มีฟีเจอร์ให้ผู้คนจ่ายเงินเพื่อปิดกั้นการแสดงผลโฆษณา พวกเราคิดว่าการนำเสนอบริการสนับสนุนโฆษณาคือสิ่งที่สอดคล้องกับพันธกิจหลักของเราในการเชื่อมต่อทุกๆ คนในโลกใบนี้เข้าด้วยกัน เพราะเราต้องการให้บริการแบบ ‘ฟรี’ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้” – มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก

 

 

2. ไม่ทราบว่าพนักงาน Facebook มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Cambridge Analytica หรือไม่

Q: “พนักงานบริษัท Facebook มีส่วนรู้เห็นในการแชร์ข้อมูลหรือเทคนิคใดๆ ก็ตามให้กับบริษัท Cambridge Analytica ที่มีส่วนสนับสนุนแคมเปญหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ หรือไม่” – มาเรีย แคนต์เวลล์ วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต วอชิงตัน

A: “ผมไม่ทราบว่าพนักงานของบริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องกับ Cambridge Analytica แม้จะรับรู้ว่าพวกเรามีส่วนช่วยเหลือให้แคมเปญหาเสียงของทรัมป์ปรากฏผ่านสื่อโฆษณาในแบบเดียวกันกับที่เราช่วยเหลือแคมเปญหาเสียงของผู้สมัครท่านอื่นๆ ทุกคน” – มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก

 

 

3. Facebook ไม่ได้ผูกขาด

Q: “ถ้าผมซื้อรถของฟอร์ดและพบว่าคุณภาพไม่ดีก็สามารถเปลี่ยนไปซื้อรถของเชฟโรเลตแทนได้ แต่กับ Facebook แพลตฟอร์มไหนคือผู้ให้บริการที่เท่าเทียมกับคุณที่ผมสามารถเลือกใช้ได้อีก คุณคิดว่า Facebook ผูกขาดการให้บริการหรือไม่” – ลินด์เซย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน เซาท์แคโรไลนา

A: “ผมมั่นใจว่าไม่ได้เป็นแบบนั้นนะ (Facebook ผูกขาด) โดยปกติแล้วคนอเมริกันจะใช้แอปพลิเคชันเฉลี่ยมากถึง 8 แอปฯ เพื่อติดต่อสื่อสารกับเพื่อนๆ หรือผู้คนตลอดเวลา ตั้งแต่แชตแอปพลิเคชันไปจนถึงอีเมล” – มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก

 

 

4. Facebook อยู่ในระหว่างการแข่งขันพัฒนาอาวุธระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลกับรัสเซีย

Q: “พนักงานของ Facebook ถูกทีมงานของ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษาพิเศษประจำกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาสอบสวนหรือไม่ แล้วตัวคุณถูกสอบสวนหรือเปล่า (กรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2016 โดยใช้ Facebook เป็นหนึ่งในเครื่องมือปล่อยข่าวลวง) – แพทริก ลีฮี วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต เวอร์มอนต์

A: “ทีมงานของผมถูกสอบสวน ส่วนตัวผมเองไม่ได้ถูกซักถามแต่อย่างใด ผมอยากจะชี้แจงให้ทราบว่าผมไม่แน่ใจว่าเรามีหมายศาลหรือเปล่า แต่สิ่งที่ผมทราบคือเราทำงานกับพวกเขา” – มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก

 

มาร์กยังกล่าวในประเด็นเดียวกันถึงข้อพิพาทกับประเทศรัสเซีย โดยระบุว่า Facebook กำลังอยู่ในระหว่างแข่งขันพัฒนาอาวุธระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลกับผู้ใช้งานบางส่วนในรัสเซียที่พยายามจะใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตนแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ไม่เหมาะสม ทั้งการแทรกแซงความเห็นสาธารณะและการเลือกตั้ง

 

“มีผู้คนในรัสเซียบางส่วนพยายามจะใช้ประโยชน์จากระบบของเรา ระบบอินเทอร์เน็ตและระบบอื่นๆ

 

“ดังนั้นมันจึงนับเป็นการแข่งขันเพื่อติดอาวุธ พวกเขา (รัสเซีย) จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และเราก็จำเป็นจะต้องลงทุนเพื่อพัฒนาให้ระบบดีขึ้นเหมือนกัน”

 

 

5. ให้สัญญาว่ากลุ่มนักเคลื่อนไหวทางกิจกรรมต่างๆ จะไม่ถูกตรวจสอบอย่างไม่เป็นธรรม

Q: “คุณมุ่งมั่นที่จะทำให้แน่ใจได้หรือไม่ว่าแพลตฟอร์ม Facebook จะไม่ยินยอมให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวทางสังคม เช่น Black Lives Matter ถูกเพ่งเล็งเป็นเป้าหมาย หรือสังเกตการณ์และตรวจสอบอย่างไม่เป็นธรรม” – คอรีย์ บูเกอร์ วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต นิวเจอร์ซีย์

A: “ผมคิดว่านั่นคือเรื่องที่สำคัญมากๆ พวกเรามุ่งมั่นกับการทำสิ่งนั้น เว้นแต่จะมีการบังคับใช้กฎหมายที่ชัดเจนหรือการออกหมายศาลเพื่อขอเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว ” – มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก

 

อีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนเคยสงสัยว่า Facebook สอดแนมเราด้วยการดักฟังเสียงผ่านไมโครโฟนบนอุปกรณ์ Device หรือไม่ เพราะมีหลายครั้งที่เราอดประหลาดใจไม่ได้ว่าเหตุใดบทสนทนากับคนรอบตัวที่เพิ่งจบไปถึงกลายมาเป็นโฆษณาบนหน้า Facebook ได้อย่างพิลึกพิลั่น?

 

แกรี่ ปีเตอรส์ วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต มิชิแกน เปิดฉากถามมาร์กแบบไม่อ้อมค้อมว่า เป็นเรื่องจริงหรือไม่ที่ Facebook ใช้ไฟล์เสียงที่ได้จากการบันทึกบนสมาร์ทโฟนผู้ใช้แพลตฟอร์มมาเสริมข้อมูลส่วนตัวสำหรับผู้ใช้คนนั้น?

 

มาร์กตอบว่า “ไม่จริงครับ ผมขออธิบายให้ชัดในประเด็นนี้ท่านวุฒิสมาชิก ท่านกำลังพูดถึงทฤษฏีสมคบคิดที่ถูกหยิบไปพูดกันต่อเรื่อยๆ ถึงเรื่องที่เราแอบฟังผู้ใช้ผ่านไมโครโฟนโทรศัพท์และนำไปต่อยอดลงโฆษณา ซึ่งต้องบอกว่าเราไม่ได้ทำอย่างนั้นครับ

 

“เพื่อให้เข้าใจตรงกัน เรายอมให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอบนอุปกรณ์ของพวกเขาและแชร์มันบนแพลตฟอร์ม แน่นอนว่าวิดีโอที่ถ่ายไว้มีเสียงประกอบอยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อคุณถ่ายวิดีโอ เราจึงบันทึกมันไว้ด้วยเพื่อพัฒนาบริการของ Facebook ให้ดีขึ้นและเพื่อให้แน่ใจว่าวิดีโอที่คุณถ่ายไว้จะมีเสียงจริงๆ”

 

การให้การในฐานะพยานของมาร์กในวันแรกผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม้จะกินระยะเวลาไปกว่า 5 ชั่วโมงเต็ม อย่างไรก็ดี วุฒิสมาชิกบางส่วนมองว่ามาร์กยังคงเอาแต่ขอโทษขอโพยเมื่อปัญหาเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ควรจะจริงจังในการสร้างมาตรการป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลหรือแก้ปัญหาอื่นๆ ได้ดีกว่านี้

 

ริชาร์ด บลูเมนทาล วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต คอนเนตทิคัต บอกว่า “พวกเราได้เห็นการขอโทษมาก่อนหน้านี้แล้ว และจากการให้การในวันนี้ของคุณ ผมก็ไม่เห็นว่าคุณจะเปลี่ยนโมเดลธุรกิจของคุณได้ด้วยวิธีไหนเลย เว้นเสียแต่ว่าจะมีการออกเกณฑ์บังคับใช้”

 

เช่นเดียวกับ จอห์น เคนเนดี วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ลุยเซียนา ที่ระบุว่าข้อตกลงของ Facebook กับผู้ใช้งานเข้าขั้น ‘ห่วยแตก’ โดยแนะให้มาร์กกลับบ้านไปเขียนข้อตกลงกับผู้ใช้งานถึงสิทธิของพวกเขาขึ้นมาใหม่ พร้อมชี้ว่าปัญหาหลักๆ ของ Facebook มีอยู่ 2 เรื่องคือ ความเป็นส่วนตัว และโฆษณาชวนเชื่อ

 

“ผมเชื่อว่าคุณคือคนที่ฉลาดจริงๆ คุณได้ก่อตั้งบริษัทสัญชาติอเมริกันที่แสนวิเศษขึ้นมา และได้สร้างสิ่งที่ดีงามไว้หลายอย่าง

 

“บางสิ่งที่คุณได้ทำลงไปคือเวทมนตร์ แต่เราได้ค้นพบทุ่นระเบิดบางอย่าง ยังมีบางส่ิงที่ทำให้ Facebook ด่างพร้อย และจำเป็นจะต้องได้รับการแก้ไข ผมคิดว่าคุณจะสามารถแก้มันได้” จอห์นกล่าว

 

อีกประเด็นที่น่าสนใจระหว่างการให้การต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ ของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ยกแรก คือการที่หุ้นบริษัท Facebook ขยับมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบ 5% โดยมีราคาขายมากถึง 165.59 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นในช่วงเวลา 15.20 น. (การให้การยังไม่จบลง)​ ก่อนขยับลงมาเล็กน้อยและปิดตลาดที่ 165.04 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น (+4.5%) เพิ่มขึ้นกว่า 7.11 เหรียญสหรัฐจากช่วงเปิดตลาดของวัน สะท้อนให้เห็นว่ามาร์กสามารถเรียกภาพรวมความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากผู้ถือหุ้นบางส่วนกลับมาได้พอสมควร แต่ต้องตามกันอีกทีว่าหลังให้การต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯ อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (ตรงกับช่วงเวลาเช้ามืดของพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน ตามเวลาประเทศไทย) สถานการณ์ของ Facebook จะดำเนินไปเช่นไร

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X