ความสัมพันธ์แบบไหนกัน ที่ทำให้ผู้รับนั้นรู้สึกอึดอัดเหมือนถูกบีบคอ?
แล้วประสบการณ์ชีวิตที่หนักหนาแค่ไหน ถึงทำให้การอยู่อย่างโดดเดี่ยวกลายเป็นเวลาเดียวที่จะได้หายใจ?
ขว้างปาความอึดอัด ผลัก Toxic Relationship ออกจากชีวิตของทุกคน ไปกับเพลง Last Breath ซิงเกิลเดี่ยวครั้งที่ 2 ของ มาร์ค ต้วน GOT7 ที่ทำให้ #LastBreathOutToday พุ่งสู่เทรนด์อันดับ 1 บนทวิตเตอร์ไทยแทบจะทันทีที่มิวสิกวิดีโอถูกปล่อยออกมา
Last Breath เป็นเพลงที่มาร์คตั้งใจเล่าถึงความรู้สึกและประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาในเกาหลี กับดนตรีทำนองฟังสบาย แต่แฝงไปด้วยเนื้อหาที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในลมหายใจสุดท้าย โดยเป็นเพลงที่มาร์คได้แต่งร่วมกับ lilspirit และ OVRCZ พร้อมกับมิวสิกวิดีโอที่กำกับโดย Will Chan เพื่อนสนิทของเขา
และถ้าเดาไม่ผิด เพลงนี้คือเพลงที่ระบายอาการคับข้องใจของมาร์คที่มีเมื่ออยู่ในฐานะ ‘ไอดอล’ หรือศิลปิน K-Pop ภายใต้การดูแลของอดีตต้นสังกัด
สิ่งแรกที่เห็นในมิวสิกวิดีโอเพลงนี้คือ มาร์ค ต้วน ที่กำลังเสี่ยงดวงอยู่ที่หน้าตู้สล็อต และแน่นอนว่าผลของมันออกมาไม่ตรงกับที่เขาหวังเอาไว้
เหมือนกับการเสี่ยงดวงเพื่อมาเป็นศิลปินฝึกหัดของ มาร์ค ต้วน ที่ผลของสล็อตครั้งแรกนั้นคือเส้นทางในอุตสาหกรรมไอดอลที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน ความยากทางด้านภาษา การเต้น และการร้องเพลงที่เหมือนเป็นการนับหนึ่งใหม่สำหรับเขา
แต่อย่างน้อยในความท้อแท้นั้นก็มีเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้น เมื่อการหมุนสล็อตครั้งที่สองทำให้เขาได้โชคครั้งใหญ่ ตัวเลข 7 สามตัวที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าเหมือนจะสื่อถึงการได้เป็นสมาชิกของวง GOT7 ที่เป็นดั่งโชคสามชั้นที่ดีที่สุดท่ามกลางความยากลำบากทั้งหมดที่เขาต้องเจอ
ในช่วงเริ่มต้นของการเป็นศิลปิน คงเป็นเวลาที่ใครๆ ต่างสับสน และ มาร์ค ต้วน ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน การเป็นศิลปินทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งต้องอยู่ภายใต้ควบคุมของค่าย และต้องกลายเป็นคนที่ไม่มีที่ติต่อหน้าสาธารณชน ทั้งที่ทุกคนก็รู้ว่าไม่มีใครเพอร์เฟกต์ทั้งนั้นในโลกนี้
เหมือนเขาที่ออกเดินทางมาไกลแสนไกลเพื่อถูกขังไว้ในกล่องสีใส ถูกกักขังไว้ในที่ที่สามารถมองเห็นทุกอย่าง แต่ไม่สามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่
“ปกติก็ไม่รู้วิธีจะจัดการมันอยู่แล้ว
แต่ผมก็ทำเต็มที่แล้วนะ คุณไม่เห็นหรอ…”
แม้ว่าการถูกควบคุมจะทำให้เขาอึดอัดแค่ไหน แต่ มาร์ค ต้วน ก็ยังพยายามอย่างเต็มที่ในฐานะไอดอลคนหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นประโยคนี้ของเพลงก็เหมือนจะสื่อว่าความพยายามเหล่านั้นก็ไม่ถูกมองเห็นอยู่ดี
“สองมือของคุณบีบคอผมไว้
ผมถึงได้หายใจแค่ตอนอยู่คนเดียวเท่านั้น”
ไม่มีใครไม่อยากเป็นตัวเอง แต่ด้วยอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีที่ภาพลักษณ์และอิสรภาพของศิลปินอยู่ภายใต้การควบคุมของค่ายเจ้าของสัญญาทุกอย่าง ทำให้มาร์คต้องทิ้งความเป็นตัวเองบางอย่างเอาไว้
แล้วระบายความรู้สึกเหล่านั้นออกมาด้วยการเปรียบการถูกควบคุมนี้กับความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ เหมือนการโดนใครสักคนบีบคอเอาไว้ตลอดเวลา และจะปล่อยให้เขาหายใจได้ก็ต่อเมื่อถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเท่านั้น เหมือนเธอคนนั้นที่ทรมานเขาในวันที่ต้องการ และทิ้งขว้างให้เขาอยู่อย่างโดดเดี่ยวในวันที่ไร้ประโยชน์ต่อกัน
วันเวลาที่ผ่านไปในชีวิตจริง เหมือนกับมาร์คในมิวสิกวิดีโอที่สร้างโลกไว้สองใบ ใบแรกคือผู้ชายในวัยยี่สิบที่เต็มไปด้วยเรี่ยวแรง ตัวตนจริงๆ ของคนที่ชื่อ มาร์ค ต้วน และโลกใบที่สองคือมาร์คในกระจกอีกฝั่งที่ใส่สูทสุดเนี๊ยบ ตัวตนที่อุตสาหกรรมสร้างเขาขึ้นมา
มาร์คในโลกใบแรกพยายามทำลายมาร์คในโลกใบที่สองด้วยการต่อยกระจก ส่วนมาร์คในโลกใบที่สองก็พยายามทำลายตัวเองด้วยการเดินจมลงไปในน้ำ
แต่สุดท้ายเขาทั้งสองคนก็ทำมันไม่สำเร็จ เพราะการมีอยู่ของมาร์คในชุดสูทนั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งและตัวตนหนึ่งของคนที่ชื่อว่า มาร์ค ต้วน ไปแล้ว
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถทำลายตัวตนของตัวเองในกระจกได้ แต่เราก็หวังว่าสล็อตตู้ใหม่ที่เขาจะหมุนในครั้งต่อไป จะเป็นการเริ่มต้นครั้งใหม่ที่มาร์คทั้งสองคนสามารถมีความสุขได้ร่วมกัน
ทั้งในฐานะ มาร์ค ต้วน ผู้ชายอายุ 28 ปี ที่เต็มไปด้วยพลังบวก และมาร์ค GOT7 ศิลปินที่พยายามอย่างเต็มที่อยู่เสมอ
รับชมมิวสิกวิดีโอเพลง Last Breath จาก มาร์ค ต้วน ได้ที่
ภาพ: Instagram @marktuan/ www.melon.com
อ้างอิง: