มาริโอ มอนติ อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี ให้สัมภาษณ์กับทางสถานีโทรทัศน์ CNBC ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงมุมมองแนวคิดเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (EU) ในห้วงเวลานี้ว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จากวิกฤตการระบาดของไวรัสโควิดในขณะนี้ยังไม่อาจวางใจได้ เพราะมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคุกคาม คือ ภาวะ Stagflation
ทั้งนี้ ภาวะ Stagflation เป็นหนึ่งในปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวและอัตราการว่างงานที่สูง ขณะเดียวกันก็เกิดปัญหาเงินเฟ้อสูงควบคู่กันไปด้วย
มอนติกล่าวว่า เม็ดเงินมหาศาลจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลาง บวกกับมาตรการกระตุ้นทางการคลังจากรัฐบาล เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด อาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นได้ ขณะเดียวกัน ก็มี ‘ข้อจำกัดหลายประการเกี่ยวกับความยืดหยุ่นในการผลิต’ ที่เพิ่มมากขึ้น
คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ในยูโรโซนประจำเดือนสิงหาคม ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 59.5 จาก 60.2 ในเดือนกรกฎาคมก่อนหน้า แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนเดือนสิงหาคม ปรับเพิ่มขึ้นทุบสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี
โดยมอนติกล่าวว่า ไม่เพียงแต่เฉพาะเศรษฐกิจของ EU เท่านั้นที่เริ่มจะประสบกับปัญหา Stagflation เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลกในช่วงทศวรรษ 1970 ดังนั้น จึงจำเป็นที่ EU ต้องเร่งดำเนินการยกระดับความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการปรับเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจในปัจจุบัน จากการพึ่งพาการอัดฉีดเม็ดเงินมหาศาลเข้าระบบ เป็นการพิจาณาตามความจำเป็นเหมาะสมกับสถานการณ์ทั่วไปเป็นหลัก
ความเห็นครั้งนี้ของมอนติมีขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 9 กันยายนนี้ ซึ่งคาดว่าทาง ECB น่าจะหารือเรื่องการลดปริมาณการซื้อคืนพันธบัตรรายเดือน ตามรอยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ECB น่าจะประกาศปรับลดปริมาณมาตรการกระตุ้นในเดือนธันวาคมนี้
อ้างอิง:
เตรียมพบกับฟอรัมที่ผู้บริหาร ‘ต้องดู’ ก่อนวางแผนกลยุทธ์ปีหน้า! The Secret Sauce Strategy Forum คัมภีร์กลยุทธ์ฝ่าวิกฤตปี 2022
📌 เฟรมเวิร์กกลยุทธ์ใช้ได้จริง
📌 ฉากทัศน์เศรษฐกิจไทย–โลก
📌 เทรนด์ผู้บริโภค–การตลาด
📌 เคสจริงจากผู้บริหาร
ซื้อบัตรได้แล้วที่ www.zipeventapp.com/e/the-secret-sauce