วันนี้ (20 พฤศจิกายน) เอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเริ่มต้นฤดูหนาวปี 2566 แล้วตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน
โดยทิศทางลมที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยเปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือหรือลมตะวันออก และกรมควบคุมมลพิษได้คาดการณ์ว่าระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายนนี้ พื้นที่กรุงเทพมหานครมีแนวโน้มฝุ่นละออง PM2.5 สูงขึ้น เนื่องจากเพดานอากาศต่ำและความเร็วลมลดลง
เอกวรัญญูกล่าวว่า กทม. ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหา PM2.5 อย่างต่อเนื่องตลอดปี โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหลายภาคส่วน เช่น กรมควบคุมมลพิษ, กรมการขนส่งทางบก, กรมอนามัย, กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ซึ่งแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปี 2567 อยู่ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองตลอด 365 วัน ทั้งการเฝ้าระวังและการแจ้งเตือน ซึ่งในปีนี้ กทม. ได้ทำ Risk Map (แผนที่เสี่ยง) นำข้อมูลจุดเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิด PM2.5 ลงในแผนที่ทั้งหมด เช่น โรงงาน แพลนต์ปูน สถานที่ก่อสร้าง และอู่พ่นสีรถ เพื่อระบุพิกัดสถานที่ตั้ง รวมถึงเพื่อให้สามารถตรวจสอบผลการดำเนินการประกอบกิจการได้
ทำให้ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถควบคุมแหล่งกำเนิดได้อย่างละเอียดแบบเรียลไทม์มากขึ้น อีกทั้ง กทม. ได้ปรับปรุงแอปพลิเคชัน AirBKK ให้สามารถพยากรณ์ได้แม่นยำขึ้น และพยากรณ์ล่วงหน้าได้ 3 วัน เพื่อให้ประชาชนได้ติดตามสถานการณ์ สามารถวางแผนการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน หรือหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากในบางมิติจะมีปัจจัยที่ก่อให้เกิด PM2.5 ที่ควบคุมได้ยาก
เอกวรัญญูกล่าวต่อว่า มิติที่สำคัญที่สุดตอนนี้เป็นเรื่องการจราจร คงต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการดูแลการจราจร การปฏิบัติตามกฎจราจร และหารือกรมขนส่งทางบกในการควบคุมรถเก่าที่จะเข้ามาในพื้นที่
สำหรับกรณีเผาชีวมวลในกรุงเทพมหานคร จะมีเขตหนองจอก มีนบุรี และคลองสามวาที่มีการทำเกษตรอยู่แล้ว จะเฝ้าระวังโดยดูจากภาพถ่ายดาวเทียมตลอด ถ้ามีจุด Hot Spot เกิดขึ้นจะให้เจ้าหน้าที่เทศกิจเข้าไปดำเนินการที่ต้นตอ
ในส่วนของการดูแลและป้องกันสุขภาพประชาชน เอกวรัญญูระบุว่า มีการทำห้องเรียนปลอดฝุ่น, ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ 300 เครื่องให้กับศูนย์เด็กเล็ก และ 1,734 เครื่องให้กับโรงเรียนอนุบาล, ปรับรูปแบบการเรียนของโรงเรียน, แจกหน้ากากอนามัย และจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 50 เขต ซึ่งหากค่าฝุ่นสูงเกิน 75.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะยกระดับการดำเนินการ
โดยควบคุมและดูแลการก่อสร้าง หรือสถานที่ก่อสร้าง ลดค่าโดยสาร BTS ส่วนต่อขยาย และขอความร่วมมือเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน Work from Home ปัจจุบันมีเครือข่ายลงทะเบียนพร้อมร่วม Work from Home หากค่าฝุ่นสูงแล้ว 121 แห่ง และสนใจเข้าร่วม 102 แห่ง รวมจำนวนพนักงาน 47,677 คน
