ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 แบรนด์กระเป๋า Mansur Gavriel เริ่มก่อตั้งขึ้นด้วยเอกลักษณ์ของความเรียบง่าย หนังคุณภาพดี และใช้งานสะดวก ทำให้เรามีโอกาสได้เห็นแฟชั่นนิสต้าหลายๆ คนหันมาหิ้วกระเป๋าหนังทรงบักเก็ต (Bucket Bag) ผูกโบกันใหญ่ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ Mansur Gavriel ได้สร้างชื่อให้กับตัวเองในวงการแฟชั่น ยิ่งในอินสตาแกรมของแบรนด์ที่โพสต์ภาพอาร์ตไดเรกชันสวยๆ กระเป๋าสีคุมโทน ยิ่งทำให้กลุ่มเป้าหมายยุคมิลเลนเนียลหันมาสนับสนุนแบรนด์นิวยอร์กเล็กๆ แบรนด์นี้มากขึ้นเรื่อยๆ
Mansur Gavriel ประกาศตัวที่จะก้าวข้ามอุตสาหกรรมกระเป๋าหนังมาสู่เวทีแฟชั่น Ready-to-wear กับเขาด้วย ในปี 2015 สองดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์อย่าง ราเชล แมนเซอร์ (Rachel Mansur) และ ฟลอเรียนา กาฟเรียล (Floriana Gavriel) ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พวกเธอจะต่อยอดแบรนด์โดยหันมาออกแบบทั้ง ‘รองเท้า’ และ ‘เสื้อผ้า’ ภายใต้แบรนด์ Mansur Gavriel ด้วย ใช้เวลาแค่ 2 ปีเท่านั้น วันนี้เราก็มีโอกาสได้เห็นคอลเล็กชัน Fall/Winter 2017 Ready-to-wear จาก Mansur Gavriel แบบเต็มๆ ในงาน New York Fashion Week ปีนี้
แฟชั่นโชว์ครั้งแรกของ Mansur Gavriel จัดขึ้นที่หน้าร้านของแบรนด์บนถนนวูสเตอร์ในโซโห เมืองนิวยอร์ก และเป็นแบบ ‘see-now, buy-now’ นั่นก็คือการที่ผู้ชมเลือกซื้อไอเท็มที่โชว์บนรันเวย์ได้เลยหลังจบงาน
พวกเธอกล่าวว่า คอลเล็กชันนี้ได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงเป็นหลัก พวกเธอจะหารูปทรงที่สมบูรณ์แบบที่สุด จากนั้นจึงหาวัสดุที่เหมาะสมมาใช้ ซึ่งก็เห็นได้ชัดจากภาพรวมในคอลเล็กชันเสื้อผ้าครั้งแรกของพวกเธอ เป็นไปได้ว่าได้รับอิทธิพลมาจากการดีไซน์กระเป๋าก่อนหน้านี้ รูปทรงของทั้งกระเป๋าและโครงร่างเงาของทุกลุคเน้นที่ความเรียบง่าย มีโครงสร้างชัดเจน แต่ก็คงความโค้งมนแบบผู้หญิงเอาไว้ บวกกับการใช้คู่สีที่ฉลาด (เช่นเฉดสีประจำของแบรนด์อย่างสีชมพูอ่อน เหลือง แดง ครีม กรมท่า เทา และน้ำตาล) นอกจากนี้ยังมีไอเท็มที่ถูกใช้ในหลายลุคอย่างเสื้อโค้ตโอเวอร์ไซส์ และไอเท็มที่ทำจากผ้าถักนิตติ้ง แคชเมียร์ และวูล ซึ่งพวกเธอยังบอกว่าทั้งเสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋าทั้งหมดผลิตในประเทศอิตาลี
แม้ก่อนหน้านี้เราจะไม่เคยเห็นการออกแบบลายปรินต์จาก Mansur Gavriel กันเท่าไรนัก แต่พอขยับจากกระเป๋ามาออกแบบเสื้อผ้า Mansur Gavriel ก็สามารถสอดแทรกลายปรินต์ที่ดึงดูดสายตา แต่ไม่เรียกร้องความสนใจจนเกินไป ลายปรินต์ในคอลเล็กชันเน้นลาย Floral ที่หลากไซส์ และถูกใช้ในปริมาณที่พอดี
กระเป๋าและรองเท้าบนรันเวย์ก็ไม่ทำให้แฟนๆ Mansur Gavriel ผิดหวัง ด้วยคอนเซปต์ ‘คลาสสิก เรียบง่าย และสวมใส่ง่าย’ ที่มีการใช้ทั้งหนังแกะ หนังกลับ แคนวาส และหนังวัวฟอกฝาด อันเป็นเอกลักษณ์ของ Mansur Gavriel
ทั้งสองดีไซเนอร์กล่าวว่า พวกเธอพร้อมกันมาตลอดอยู่แล้ว เพราะแบรนด์ Mansur Gavriel เติบโตเร็วมากตั้งแต่ทำแค่กระเป๋า ซึ่งทำให้ทีมต้องเตรียมพร้อมด้านระบบการจัดการทั้งหมด แต่พวกเธอก็ไม่ได้เปิดเผยรายได้ปัจจุบันของแบรนด์ กระนั้นยอดที่ได้ก็สูงขึ้นจากปี 2016 ถึง 30% ถือเป็นความเติบโตของแบรนด์ที่น่าสนใจ เพราะพวกเธอใช้เวลาเพียง 5 ปี เริ่มจากการทำงานกันเพียงแค่ 2 คนในช่วง 2 ปีแรก จนถึงตอนนี้คอลเล็กชัน Ready-to-wear ครั้งแรกก็เรียกได้ว่าเป็นที่น่าจับตามองในวงการแฟชั่นเลยทีเดียว
Photo: www.mansurgavriel.com/pages/fall-2017-runway