เป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อว่าสโมสรอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยกวาดแชมป์เป็นว่าเล่น กลับห่างหายจากการชูโทรฟีพรีเมียร์ลีกมานานกว่า 8 ปี หลังการพิชิตแชมป์ในฤดูกาลสุดท้ายของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ฤดูกาลนั้นจบลงด้วยการฉลองแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20 ของพวกเขา และเป็นการอำลาของผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของวงการฟุตบอลอังกฤษ ที่ไม่มีใครสามารถก้าวเข้ามาทดแทนหรือพาทีมกลับขึ้นไปอยู่ ณ จุดเดิมได้อีกเลย
ไม่ว่าจะเป็น The Chosen One อย่าง เดวิด มอยส์, ปรมาจารย์ลูกหนังชาวดัตช์ หลุยส์ ฟาน ฮาล หรือ The Special One อย่าง โชเซ มูรินโญ ต่างล้มเหลวกันถ้วนหน้า
แต่ในเกมตกค้างจากต้นฤดูกาลคืนนี้ ซึ่งพวกเขาจะไปเยือนเทิร์ฟ มัวร์ รังเหย้าของเบิร์นลีย์ และสามารถมีคะแนนติดมือกลับบ้านมาได้แม้เพียงแค่ 1 คะแนน แมนฯ ยูไนเต็ด จะแซงหน้าลิเวอร์พูลขึ้นไปนำจ่าฝูงเดี่ยวทันที หลังเคยขึ้นนำจ่าฝูงครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนกันยายน ปี 2017 ก่อนที่จะเปิดศึกแดงเดือดที่แอนฟิลด์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
สถานการณ์นี้เป็นสถานการณ์ที่ยากจะเชื่อเช่นกันเมื่อคิดถึงผลงานในช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ เริ่มต้นได้อย่างกระท่อนกระแท่น ผลงานย่ำแย่จนมีเสียงเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งนายใหญ่ของทีม เพื่อไม่ให้เสียเวลาและโอกาสกันไปมากกว่านี้
แต่หลังความพ่ายแพ้ต่ออาร์เซนอลคาโอลด์แทรฟฟอร์ดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา 10 นัด หลังจากนั้นแมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะได้ถึง 8 จาก 10 นัดด้วยกัน หรือคิดเป็นคะแนนแล้วได้ทั้งหมด 26 จาก 30 คะแนน
จากที่เคยจมอยู่ในอันดับที่ 15 มาสู่การเป็นทีมอันดับ 2 เป็นรองแชมป์เก่าแค่ผลต่างประตูได้เสีย และมีเกมในมืออีก 1 นัด
เป็นการพลิกผันของโชคชะตาที่เกิดขึ้นจากความพยายามของตัวเอง
ส่วนสำคัญในการทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดความเปลี่ยนแปลง มาจากฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของ ‘เสาหลัก’ ประจำทีมอย่าง บรูโน แฟร์นันด์ส ซึ่งแม้จะย้ายมาร่วมทีมได้ไม่ถึง 1 ปี แต่เป็นผู้ที่พลิกโฉมหน้าของปีศาจแดงไปอย่างสิ้นเชิง
เพราะมีบรูโน แมนฯ ยูไนเต็ด จึงสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในลีก หลายครั้งที่พลิกเกมได้ด้วยตัวเอง หรือมีส่วนในการทำให้ทีมไม่เพียงแต่รอดพ้นความปราชัยในบางนัด ยังนำชัยชนะกลับมาได้ด้วยในอีกหลายนัด
แต่ที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือ การที่นักเตะหลายๆ คนในทีมเริ่มเรียกฟอร์มเก่งตามมาได้ด้วย โดยนอกจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ยังมี อองโตนี มาร์กซิยาล, พอล ป็อกบา, ลุค ชอว์, แฮร์รี แม็กไกวร์, เฟร็ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ค่อยๆ ทำผลงานได้ดีขึ้นตามลำดับ
อย่างไรก็ดี สำหรับนายใหญ่อย่างโซลชาร์ สิ่งที่เขากังวลมากที่สุดคือ การที่หากทีมสามารถแซงขึ้นนำจ่าฝูงได้แล้ว ลูกทีมจะสูญเสียความมุ่งมั่นไปเพียงเพราะรู้สึกว่าทำเป้าหมายสำเร็จแล้ว
ความจริงนั้นไม่ใช่ การได้จ่าฝูงนั้นเป็นแค่การเริ่มต้นของการต่อสู้ที่ยาวนาน หนักหนา และสาหัส
“เราต้องการแต้มจากเบิร์นลีย์อยู่แล้วก่อนที่จะมีใครบอกว่าเราได้เป็นจ่าฝูง แต่มันเป็นอันดับที่เราทำมาได้ด้วยตัวเอง” โซลชาร์กล่าว
“ผมอยากจะให้ทีมมีสมาธิกับเกม และแทนที่จะคิดถึงอันดับของทีมก่อนในตารางเมื่อถึงวันพรุ่งนี้ ก็ควรจะคิดถึงอันดับของทีมเมื่อจบฤดูกาลในเดือนพฤษภาคม ซึ่งตรงนั้นต่างหากที่สำคัญ
“ถ้าถึงจุดหนึ่งแล้วคิดว่าเราทำได้แล้ว แล้วเริ่มผ่อนคลาย ตรงนั้นเองที่เราจะโดนเล่นกลับ ดังนั้นเราจึงมีสมาธิมาก ในทีมเรามีผู้นำอยู่หลายคน ห้องแต่งตัวในทีมเริ่มมีชีวิตชีวา มีคนเสียงดังมากขึ้น
“ไม่มีใครจดจำตารางในเดือนมกราคม มันจะตัดสินกันในตอนถึงเดือนมีนาคมหรือเมษายน”
ก่อนจะลงสนามเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจถึงขีดสุด ได้ถูกเตือนสติไปรอบหนึ่งด้วยการตกรอบรองชนะเลิศเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันภายใต้การนำของโซลชาร์ หลังพ่ายต่อคู่ปรับร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเอาชนะพวกเขาได้ในรายการเดิมเหมือนปีกลาย
ว่าระหว่างสองทีมระยะห่างมันยังมีอยู่ และอย่าได้ทะนงตัวไปกับผลงานแค่ช่วงนี้
เพียงแต่หากชิงจ่าฝูงมาได้สำเร็จในคืนนี้ ก็จะเป็นการคืนความมั่นใจให้กับทีมได้อย่างมหาศาล
เพราะสำหรับทีมอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด รายการที่ดีต่อใจอย่างแท้จริงคือรายการใหญ่อย่างพรีเมียร์ลีก หรือยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้ยืนอยู่เหนือลิเวอร์พูล คู่แค้นตลอดกาลที่ได้ ‘ข่ม’ พวกเขามากพอสมควรในช่วง 2-3 ปีหลัง
ได้จ่าฝูงเกมนี้ แล้วไปยัดเยียดความปราชัยให้ลิเวอร์พูลที่ไม่เคยแพ้ใครในแอนฟิลด์มาเกือบ 4 ปี ทิ้งห่าง 6 คะแนน คือภาพในความฝันที่สวยหรูที่สุด
แต่ขั้นต่ำที่สุด คืนนี้ต้องมีแต้มกลับจากเทิร์ฟ มัวร์ ให้ได้
นั่นคือสิ่งที่นักเตะยูไนเต็ดทุกคนต้องการ ส่วนขั้นตอนของการก้าวไปสู่การเป็นทีมลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัวเป็นสิ่งที่เอาไว้ว่ากันภายหลังได้
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- https://www.skysports.com/football/news/11667/12184700/are-manchester-united-premier-league-title-contenders
- https://www.theguardian.com/football/2021/jan/11/ole-gunnar-solskjaer-wants-manchester-united-squad-to-develop-inner-justice
- https://www.bbc.com/sport/football/55622102
- https://www.telegraph.co.uk/football/2021/01/11/ole-gunnar-solskjaer-says-manchester-united-need-go-every-game/
- เกมนี้ เอดินสัน คาวานี กองหน้าชาวอุรุกวัย จะพ้นโทษแบนกลับมาหลังจากที่โดนลงโทษห้ามลงสนาม 3 นัด จากคดีโพสต์ภาพที่มีข้อความในเชิงเหยียดสีผิว
- แฮร์รี แม็กไกวร์ มีความเสี่ยงจะโดนลงโทษแบน 1 นัด จากการสะสมใบเหลืองครบโควตา ซึ่งทำให้เกมนี้เขาอาจจะถูกพักเพื่อเก็บตัวไว้เจอกับลิเวอร์พูลในสุดสัปดาห์นี้ ส่วน ลุค ชอว์ กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่บาดเจ็บ คาดว่าจะหายกลับมาได้ในเกมนี้
- โอเดียน อิกาโล กองหน้าชาวไนจีเรีย เตรียมบอกลาทีมรัก หลังใกล้หมดสัญญายืมตัวกับเซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว