พรีเมียร์ลีกเตรียมลงดาบแมนฯ ซิตี้ เรื่องไหน บทลงโทษจะถึงขั้นตกชั้นหรือริบแชมป์ไหม?

ฟ้าผ่ากลางสนามเอติฮัดสเตเดียม หลังพรีเมียร์ลีกออกแถลงการณ์ตั้งข้อหาสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากการสืบสวนที่ใช้ระยะเวลายาวนานกว่า 4 ปี โดยพบการกระทำผิดกฎทางการเงินมากกว่า 100 กระทง ตลอดระยะเวลา 14 ฤดูกาลตั้งแต่ 2009/10 จนถึงฤดูกาลปัจจุบัน

ในส่วนของการกระทำผิดนั้นมาจากการตรวจสอบรายงานทางการเงินของสโมสร 9 ฤดูกาลตั้งแต่ 2009/10-2017/18 นอกจากนี้แมนฯ ซิตี้ ยังไม่ให้ความร่วมมือในการส่งเอกสารที่ได้รับการร้องขอในช่วงฤดูกาล 2018/19-2022/23

ความผิดทั้งหมดนั้นอาจนำไปสู่บทลงโทษที่หนักหน่วงรุนแรงในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยบทลงโทษที่มีการคาดเดากันมีตั้งแต่

การตัดแต้ม (มีการคาดกันที่ 15 แต้ม)
การขับออกจากลีก / การปรับตกชั้น
การริบโทรฟี่แชมป์
การลงโทษห้ามแข่งขันในรายการสโมสรยุโรป
การปรับเงินสถานหนัก

แถลงการณ์ระบุว่า “ภายใต้กฎพรีเมียร์ลีกข้อที่ W.82.1 พรีเมียร์ลีกขอยืนยัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้กระทำการละเมิดกฎพรีเมียร์ลีกหลายข้อ”

โดยทางด้านพรีเมียร์ลีกได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อสอบสวนในเรื่องนี้แล้ว ส่วนการรับฟังผลการพิจารณาคดีจะมีขึ้นเป็นการภายใน

แต่เพื่อให้ความกระจ่างในประเด็นนี้มากขึ้น กับอีกหลายคำถามเกี่ยวพันที่น่าสนใจ ทางด้าน The Times ซึ่งเกาะติดประเด็นนี้ ได้มีการสรุปหัวใจสำคัญของคดีนี้เอาไว้ ดังนี้

2 ประเด็นใหญ่ในความผิดมากกว่า 100 กระทงของแมนฯ ซิตี้

สำหรับสาระสำคัญในการดำเนินคดีกับแมนฯ ซิตี้ ครั้งนี้อยู่ที่สองเรื่องใหญ่ด้วยกัน

การอัดฉีดเงินเข้าสู่สโมสรจากเจ้าของสโมสรผ่านการให้สปอนเซอร์
สัญญาลับของ โรแบร์โต มันชินี อดีตผู้จัดการทีม

สัญญาลับของมันชินีคืออะไร?

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน รุย ปินโต หรือ Football Leaks ได้มีการปล่อยเอกสารลับทางการเงินครั้งใหญ่ ซึ่งท่ามกลางเรื่องมากมาย มีเรื่องของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ต่อมา Der Spiegel สำนักข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนของประเทศเยอรมนี ได้นำมาตีแผ่ต่อ และนำไปสู่การดำเนินคดีโดยสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (UEFA) และพรีเมียร์ลีกในเวลาต่อมา

หนึ่งในเอกสารที่มีการเปิดเผยโดย Der Spiegel ครั้งนั้นได้มีการเปิดเผยว่า มันชินี อดีตผู้จัดการทีมแมนฯ ซิตี้ ในช่วงปี 2009-2013 ได้รับเงินค่าจ้างผ่านสัญญาลับด้วยการจ้างเป็นที่ปรึกษาให้แก่อัล จาซีรา สโมสรฟุตบอลในอาบูดาบี

โดยในสัญญาของมันชินีที่ทำไว้กับแมนฯ ซิตี้ จะได้รับเงินหลังหักภาษีแล้วปีละ 1.45 ล้านปอนด์ แต่ปรากฏว่าบริษัทภายใต้โค้ชชาวอิตาลียังได้รับเงินจากสโมสรอัล จาซีรา อีกปีละ 1.75 ล้านปอนด์สำหรับข้อตกลงในการไปคุมสโมสรแค่ ‘ปีละ 4 วัน’

อีเมลจาก Der Spiegel ได้เปิดเผยเส้นทางการเงินว่า บริษัท Italy International Services (IIS) ได้ส่งใบแจ้งหนี้ให้แก่แมนฯ ซิตี้ ซึ่งได้โอนถ่ายเงินไปให้กับบริษัทอาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป (ADUG) ซึ่งมีเจ้าของคือ เชค มานซูร์ เป็นเจ้าของสโมสรแมนฯ ซิตี้ ที่ได้โอนเงินต่อให้อัล จาซีรา เป็นคนจ่ายเงิน

ตามหลักฐานที่หลุดออกมา ไซมอน เพียร์ซ ผู้อำนวยการสโมสรในขณะนั้น และเป็นที่ปรึกษาให้แก่ราชวงศ์อาบูดาบี มีส่วนรับรู้ในดีลลับนี้ด้วย

ขณะที่ โรแบร์โต มันชินี ปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องสัญญากับอัล จาซีรา

เรื่องการรับเงินผ่านสปอนเซอร์เคยถูก UEFA เล่นงานแล้วนี่?

ย้อนกลับไปในปี 2020 UEFA มีคำสั่งลงโทษแมนฯ ซิตี้ สถานหนัก ทั้งปรับเงินมหาศาลและห้ามลงแข่งในรายการสโมสรยุโรปเป็นเวลา 2 ปีด้วยกัน หลังจากที่มีการตกแต่งบัญชีของสโมสรให้ไม่ขาดทุนในระหว่างปี 2012-2016

ในรายละเอียดนั้นพบว่า แมนฯ ซิตี้ ได้รับเงินสปอนเซอร์จาก Etisalat บริษัทโทรคมนาคมและสายการบิน Etihad แต่ความจริงแล้วเงินนั้นออกมาจาก ADUG ของ เชค มานซูร์ ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎทางการเงิน

แต่อนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) ได้มีคำสั่งยกเลิกบทลงโทษดังกล่าว เนื่องจากเรื่องเกิดขึ้นเมื่อนานมากจนหมดอายุความ และไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะทำให้เชื่อถือได้ (CAS ไม่ให้น้ำหนักอีเมลที่โต้ตอบกันในประเด็นเรื่องสปอนเซอร์)

อย่างไรก็ดี ทางด้านพรีเมียร์ลีกไม่มีกฎในเรื่องของการหมดอายุความ ทำให้แมนฯ ซิตี้ ไม่สามารถใช้เรื่องนี้มาเป็นข้อโต้แย้งกับทางพรีเมียร์ลีกได้

ทำไมการสอบสวนถึงใช้ระยะเวลานานถึง 4 ปี?

พรีเมียร์ลีกต้องใช้ระยะเวลานานถึง 4 ปีในการสอบสวนเรื่องนี้นับตั้งแต่มีการประกาศในเดือนมีนาคม 2019 ว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องของแมนฯ ซิตี้ โดยส่วนหนึ่งมาจากจำนวนการกระทำความผิดที่สูงมากเกินกว่า 100 ครั้ง อีกส่วนเป็นเพราะแมนฯ ซิตี้ พยายามเล่นแง่ด้วยการถ่วงเวลาในการส่งมอบเอกสารให้แก่พรีเมียร์ลีก

โดยในการประกาศของศาลอุทธรณ์ในปี 2021 ซึ่งเกิดขึ้น 2 ปีหลังจากที่พรีเมียร์ลีกได้เริ่มสอบสวน ทางด้านอนุญาโตตุลาการได้สั่งให้ซิตี้ส่งมอบเอกสารและข้อมูลที่ถูกต้องให้แก่พรีเมียร์ลีก เพื่อที่จะได้ร้องขอไปยังกลุ่มบุคคลที่สาม”

สรุปแล้วคือข้อหาเยอะ และแมนฯ ซิตี้ ก็พยายามเตะถ่วงในเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถถ่วงเวลาได้อีก

ทำไมการสอบสวนเรื่องนี้จึงถูกเก็บเงียบขนาดนี้

เรื่องนี้ทั้งพรีเมียร์ลีกและแมนฯ ซิตี้ ตกลงที่จะมีการสอบสวนกันเป็นการภายใน จึงไม่มีข่าวแพร่งพรายออกมาแม้แต่น้อย และปรากฏเป็นข่าวฮือฮาในวันนี้

ขณะที่แมนฯ ซิตี้ ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดใดๆ ทั้งสิ้น

บทลงโทษจะรุนแรงถึงปรับตกชั้น-ริบแชมป์ไหม?

เรื่องนี้คือเรื่องใหญ่ที่สุดที่หลายคนอยากรู้ว่าตกลงแล้วแมนฯ ซิตี้ จะถูกลงโทษอย่างไร?

ตัดแต้ม
ไล่ออกจากลีก / ปรับตกชั้น
ริบแชมป์ที่เคยได้

อย่างไรก็ดี เรื่องนี้คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการสอบสวน ‘อีกยาวนาน’ โดยทางแมนฯ ซิตี้ ซึ่งพร้อมว่าจ้างทีมทนายความที่เก่งที่สุดในโลกมาว่าความให้เหมือนที่เคยรอดพ้นมาแล้วจากการอุทธรณ์การลงโทษของ UEFA ต่อ CAS

ดังนั้นอย่าเพิ่งคาดหวังว่าจะมีบทสรุปใดๆ ในระยะเวลาอันสั้น และต่อให้ทางพรีเมียร์ลีกมีการตัดสิน ก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องจะจบลงทันที เพราะจะมีการต่อสู้คดีกันจนกว่าจะถึงที่สุด คาดว่าจะใช้เวลาอีกยาวนาน

แน่นอนว่าหากแมนฯ ซิตีแพ้ (ซึ่งตามข้อมูลล่าสุดบอกว่าตามกฎพรีเมียร์ลีกไม่สามารถไปอุทธรณ์กับ CAS ได้) บทลงโทษนั้นน่าจับตามองอย่างมากว่าจะมีการตัดสินอย่างไร ซึ่งก็เป็นไปได้ทั้งหมดตั้งแต่การตัดแต้ม การขับออกจากลีก ไปจนถึงการริบแชมป์

แต่หากแมนฯ ซิตีชนะก็ต้องจับตาว่าพรีเมียร์ลีกจะดำเนินการอย่างไรต่อไป รวมถึงท่าทีจากสโมสรอื่นๆที่เชื่อว่ากำลังจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในเวลานี้

อ้างอิง: