ประเทศไทยวันนี้ก้าวสู่ Digital Transformation ที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวหรือเปลี่ยนกลยุทธ์ รวมถึง ‘คนทำงาน’ ที่ต้องเติมทักษะเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลง
แซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวในงาน CREATIVE TALK CONFERENCE 2024 ‘Creative Generation’ บนเวที Business Next Chapter: Secret to define the present and design the future โดยพูดถึงฉากทัศน์ต่อไปของทุกธุรกิจที่ต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงว่า “เศรษฐกิจในประเทศไทยน่าเป็นห่วง สิ่งที่คนทำธุรกิจต้องสนใจในวันนี้คือการปรับตัวด้านดิจิทัล”
ความเปลี่ยนแปลงนี้ยิ่งเด่นชัดขึ้นเมื่อเราเห็นว่า Generative AI พัฒนาไปถึงระดับสูงที่สามารถเลียนแบบกระบวนการคิดของมนุษย์ได้ โดยในแง่มุมหนึ่งทำให้ ‘คน’ ทำงานได้ง่าย อย่างเช่นในกรณีของบริษัท Krungsri ที่มีทีม Krungsri AI สำหรับใช้ตอบคำถาม ทำให้ไม่ต้องเพิ่มพนักงานฝ่าย Call Center มาหลายปีติดต่อกันแล้ว เพราะใช้ AI ช่วยตอบ แต่พร้อมกันนี้ บริษัทก็นำคนของตัวเองมาอัปเกรดทักษะให้กลายเป็น Trainer Bot หรือเป็น Prompt Engineer
“ทั้งนี้ เพื่อให้ธุรกิจยังคงอยู่ในจุดที่ยังแข่งขันได้ดี ผู้ประกอบการจะต้องโฟกัสงานอย่างใดอย่างหนึ่งแทนที่จะทำหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งจะทำงานได้ดีกว่านี้ แล้วถ้าไม่ประสบความสำเร็จก็ออกไปทำอย่างอื่นได้ ค่อยๆ ทำไป แต่อย่าจับงานหลายงานพร้อมกัน เลยอยากจะเน้นย้ำ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ SME หรือ Start-up ควรจะต้องโฟกัสในเรื่องของการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งให้เต็มที่ และยังต้องให้ความสนใจในพื้นฐานของประเทศ เพราะตอนนี้ไทยก้าวสู่ Digital Transformation ถ้าเรายังไม่ปรับ พื้นฐานไม่แน่น อีกไม่นานประเทศเราจะรั้งท้ายแน่นอน ดังนั้นแล้วผู้ประกอบการจึงต้องทำ ‘Next Chapter’ หรือค้นหาฉากทัศน์ใหม่ให้กับธุรกิจ พร้อมกับการ Reskill พนักงาน เพื่อปรับแนวทางให้กับธุรกิจ” แซมกล่าว
นอกจากนี้ สิ่งที่แซมมองว่าต้องระวังเพิ่มเติมในการทำธุรกิจ ณ ตอนนี้คือเรื่องของค่าใช้จ่าย เพราะคนไทยเป็นหนี้เยอะมาก แม้ว่าธุรกิจวางแผนมาระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังต้องควบคุมให้ดีเพื่อป้องกันการใช้เกินตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระวังไม่ว่าจะส่วนตัวหรือธุรกิจ ในขณะเดียวกันประเด็นเรื่อง ‘ทัศนคติ’ คืออีกหนึ่งสิ่งที่ทุกคนควรตระหนักไว้ ข้อสำคัญคือต้องเป็นคนที่มีทัศนคติเปิดกว้าง เพื่อให้มองเห็นและเข้าใจปัญหาได้อย่างชัดเจน
สุดท้าย แซมฝากแนวคิดให้กับผู้ประกอบการที่คิดจะวางแผนอนาคตให้กับธุรกิจของตัวเองว่า ธุรกิจจะต้องมี 3P คือ
P1 – People เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุดในองค์กร ต้องให้ความสำคัญกับคน ให้โอกาสเติบโต เพราะไม่มีใครทำงานคนเดียวได้ ถ้าไม่มีผู้คนรอบข้างที่ดี
P2 – Planet ตรวจสอบและประเมินผลกระทบของการดำเนินงานขององค์กรต่อสิ่งแวดล้อม ต้องมองให้ไกลกว่าเดิม เพื่อสังคม เพื่อโลก
P3 – Profit หนึ่งสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจคือการไม่ใช้จ่ายเงินเกินตัว ผู้ประกอบการต้องดูกระแสเงินสดให้ดี ถึงแม้ว่าธุรกิจในช่วงแรกๆ จะต้องเจอกับภาวะกระแสเงินสดติดลบ แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้วค่อยๆ ขยับขึ้นมาจนเป็นบวกได้ แสดงว่าธุรกิจมาถูกทางแล้ว
“ถ้าผู้ประกอบการทำ 3 อย่างนี้ได้ รับรองว่าธุรกิจ Start-up ก้าวขึ้นไปเป็น Unicorn ได้แน่นอน” แซมกล่าวทิ้งท้าย