มาร์คัส แรชฟอร์ด กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ทีม ‘ปีศาจแดง’ ที่ลงสนามในฐานะตัวสำรอง แต่สามารถทำแฮตทริกได้ก่อนช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถล่ม แอร์เบ ไลป์ซิก กระจุย 5-0
ในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องรับมือกับคู่แข่งสุดแกร่งอย่างไลป์ซิก จ่าฝูงบุนเดสลีกาที่ทำผลงานยอดเยี่ยมยังไม่แพ้ทีมใดเลยตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา โดยเกมนี้ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ มีการสลับผู้เล่นพัก บรูโน แฟร์นันด์ส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด เอาไว้ที่ข้างสนาม
แรชฟอร์ดได้ลงสนามในนาทีที่ 63 โดยแทนที่ เมสัน กรีนวูด กองหน้าดาวรุ่งที่ทำประตูเบิกร่องในช่วงครึ่งแรกให้ทีมนำ 1-0 ซึ่งหลังจากได้ลงสนามดาวยิงทีมชาติอังกฤษวัย 22 ปีสามารถทำแฮตทริกได้สำเร็จ โดยยิงได้ในนาทีที่ 74, 78 และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 2 โดยอีกรายที่ทำประตูได้คือ อองโตนี มาร์กซิยาล ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าชัยชนะสวยหรู 5-0
การทำแฮตทริกในเกมนี้ของแรชฟอร์ดทำให้กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ลงสนามในฐานะตัวสำรองและทำแฮตทริกได้ โดยคนแรกที่ทำได้คือ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ นายใหญ่แห่งโอลด์แทรฟฟอร์ดคนปัจจุบันที่เคยลงเป็นตัวสำรองในเกมพรีเมียร์ลีกนัดพบกับน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ และทำได้ถึง 4 ประตูด้วยกัน ส่วนในรายการแชมเปียนส์ลีก นับเป็นผู้เล่นคนที่ 5 และเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดลำดับที่ 2 รองจาก คีเลียน เอ็มบัปเป้
นอกจากความสำเร็จในสนามแล้ว แรชฟอร์ดยังได้เผยข่าวดีว่า ขณะนี้การรณรงค์เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลเรื่องการจัดหาอาหารให้แก่เด็กนักเรียนที่ขาดแคลนในระหว่างพักการเรียนมีคนร่วมลงชื่อเกินกว่า 1 ล้านคนแล้ว โดยจำนวนล่าสุดที่กองหน้าที่พยายามต่อสู้กับความหิวโหยของเด็กๆ ในประเทศอังกฤษเปิดเผยคือ 1,030,00 คน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: