การป้ายสีและยัดเยียดความผิดให้แก่ผู้คนในสิ่งที่พวกเขาไม่ได้กระทำเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ตลอดมา แม้กระทั่งในวงการกีฬาที่ไม่ควรจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นก็ตาม
โดยหนึ่งในเรื่อง ‘สีเทา’ ที่ค่อนข้างไปทางสีดำสำหรับนักกีฬาคือเรื่องของการโกงด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่ไม่มีนักกีฬาคนใดอยากยอมรับคือเรื่องของการโกงด้วยการใช้สารกระตุ้นบางอย่างที่จะช่วยรีดเร้นศักยภาพร่างกาย ช่วยให้ได้เปรียบคู่ต่อสู้ไม่ว่าจะมากหรือน้อยแค่ไหนก็ตาม
การต้องถูกตีตราว่าเป็น ‘คนขี้โกง’ นั้นถือเป็นความอับอายที่สุดยิ่งกว่าความพ่ายแพ้ใดๆ
แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือการถูกตีตราทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม
ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว มีหนึ่งในนักฟุตบอลอนาคตไกลที่ชีวิตกำลังเริ่มไปได้สวย แต่สุดท้ายชีวิตของเขาเริ่มพังทลายด้วยการถูกตัดสินว่ากระทำผิดในข้อหาของการใช้สารต้องห้าม
นักฟุตบอลคนดังกล่าวคือ มามาดู ซาโก ปราการหลังชาวปารีเซียงแต่กำเนิด เป็นถึงอดีตกัปตันทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทั้งที่อายุยังน้อย ก่อนจะย้ายมาค้าแข้งกับลิเวอร์พูล สโมสรฟุตบอลระดับชั้นนำของอังกฤษ และกำลังเริ่มปักหลักในฐานะกองหลังคนสำคัญของทีมที่กำลังเริ่มต้นยุคใหม่กับผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างเจอร์เกน คล็อปป์
ซาโก ถูก WADA องค์กรที่มีหน้าที่ในการตรวจตราเรื่องการใช้สารต้องห้ามในหมู่นักกีฬาแจ้งความผิดว่า เขาใช้สารต้องห้ามหลังจากที่ผลการสุ่มตรวจออกมาเป็นบวก และต้องถูกลงโทษด้วยการพักการแข่งขันในรายการฟุตบอลยุโรปเป็นเวลา 30 วัน
แน่นอนว่าเขาปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงแต่ไม่สามารถกระทำอะไรได้ในเวลานั้น และจำต้องยอมรับความผิด
ผลของโทษแบนทำให้เขาพลาดเกมสำคัญในศึกยูฟ่ายูโรปาลีก รอบชิงชนะเลิศที่ลิเวอร์พูลพบกับเซบียา ในเมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเกมนั้นทีมของเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปอย่างน่าเจ็บปวด ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าหากมีซาโกอยู่ในสนาม ลิเวอร์พูลอาจจะมีโอกาสคว้าชัยชนะเพิ่มขึ้นก็เป็นไปได้
จากนั้นสิ่งที่เลวร้ายกว่าที่เกิดขึ้นคือ การที่เขาถูก ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส โค้ชทีมชาติฝรั่งเศสตัดรายชื่อออกจากทีมชาติชุดลุยฟุตบอลยูโร 2016 เนื่องจากยังมีมลทินจากเรื่องนี้ ซึ่งสำหรับโค้ชอย่างเขาแม้จะเห็นใจแต่ก็ไม่สามารถจะรอได้
ที่รอไม่ได้เพราะซาโกถูกตรวจพบสารกระตุ้นหลังจบเกมยูโรปาลีก กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และมีการตัดสินลงโทษในวันที่ 23 เมษายน (ทำให้ลิเวอร์พูลต้องพักการเล่นของเขาไปด้วย) ซึ่งโทษมีการขยายผลโดยฟีฟ่าที่ลงโทษแบนทั่วโลกเป็นเวลา 30 วันด้วย
ช่วงระยะเวลานั้นคือช่วงที่เดส์ชองป์สจะต้องทำการเลือกผู้เล่น และประกาศรายชื่อนักฟุตบอลที่จะได้ไปเล่นในรายการฟุตบอลยูโร ทำให้เขาไม่สามารถจะรอซาโกคนเดียวได้ และไม่สามารถจะใส่ชื่อได้ก่อนด้วยเช่นกัน
คนปารีเซียงโดยกำเนิดอย่างเขาจึงพลาดโอกาสครั้งเดียวในชีวิตที่จะได้ลงเล่นในฟุตบอลระดับนานาชาติบนแผ่นดินเกิดของตัวเอง
ที่ตลกร้ายกว่านั้นคือการที่โทษแบนของเขาสิ้นสุดลงในวันที่ 28 พฤษภาคม หลังจบศึกยูโรปาลีก และการประกาศรายชื่อทีมชาติฝรั่งเศสได้ไม่กี่วัน โดยยูฟ่าได้ยกเลิกข้อหาโดยพบว่าไม่มีชื่อของสารต้องห้าม Hygenamine ซึ่งเป็นสารประกอบยาลดน้ำหนักที่ซาโกใช้แต่อย่างใด (ก่อนจะมีการใส่ชื่อสารชนิดนี้เข้าไปในภายหลังในปี 2017)
สำหรับซาโก เขาไม่เพียงแต่ถูกพรากโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตไปเท่านั้น เส้นทางชีวิตการเล่นฟุตบอลของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยหลังจากนั้นซาโกถูกไล่ออกจากแคมป์เก็บตัวพรีซีซันของลิเวอร์พูล (แม้จะมีข่าวว่าเป็นเรื่องของความไร้ระเบียบวินัยเป็นหลัก) และต้องถูกส่งตัวให้คริสตัล พาเลซ สโมสรในระดับรองไปใช้งานก่อนจะย้ายไปอยู่เป็นการถาวรในเวลาต่อมา โดยที่ไม่มีวันได้กลับมาสวมเสื้อของลิเวอร์พูลอีกเลย
นั่นทำให้เขาจำเป็นที่จะต้องลุกขึ้นสู้เพื่อเรียกร้องความบริสุทธิ์ของตัวเองกลับคืนมา
ซาโก ตัดสินใจยื่นฟ้องร้อง WADA ต่อศาลสูงในประเทศอังกฤษ ซึ่งทางด้าน WADA ได้ออกแถลงการณ์โต้ตอบถึง 2 ฉบับในปี 2016 และ 2017 โดยยืนกรานว่าซาโกใช้สารดังกล่าวจริง และใช้สารต้องห้ามที่แบนมาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว
การออกแถลงการณ์นี้เป็นการทำลายชื่อเสียงของซาโก ที่ต่อให้ใครจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วก็ตาม แต่ตัวเขาไม่มีวันลืมในสิ่งที่ถูกกล่าวหา และยิ่งทำให้เขายิ่งต่อสู้ต่อไป
และในที่สุดหลังจากเวลาผ่านมาถึงปัจจุบัน ซาโกก็ได้รับชัยชนะที่เขาต้องการ เมื่อ WADA ได้ยอมรับการกระทำผิดของตัวเองเป็นครั้งแรก
“WADA ยอมรับว่าซาโกไม่ได้กระทำผิดข้อบังคับเรื่องการใช้สารกระตุ้น ไม่ได้โกง ไม่มีเจตนาที่จะใช้ความได้เปรียบ และปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างที่ดี WADA เสียใจต่อความเสียหายที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และเพื่อแสดงความจริงใจในการขอโทษครั้งนี้ WADA ตกลงที่จะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้แก่ซาโก เพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น”
ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขว่า WADA จ่ายเงินให้กับซาโกเท่าไร แต่สำหรับเรื่องนี้เงินไม่ใช่สิ่งที่สำคัญอะไรเลย
เพราะมันไม่สามารถชดเชยโอกาสและสิ่งต่างๆ ที่เขาได้สูญเสียไปได้แม้แต่น้อย
แต่อย่างน้อยที่สุดสำหรับซาโก มันคือวันที่เขาได้ลบมลทินที่แปดเปื้อนมาเป็นระยะเวลานาน
“ผมรู้สึกมีความสุข สำหรับทั้งครอบครัว สำหรับเพื่อนทุกคน และสำหรับทุกคนที่อยู่เคียงข้างผมในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่ผ่านมา มันไม่ง่ายเลยสำหรับคนที่เป็นนักกีฬาและถูกกล่าวหาว่าใช้ยาโด๊ป มันเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้นกับคุณ
“ผมเชื่อในทีมกฎหมายของผม เรามีการพูดกันเสมอว่าความจริงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ และผมก็ดีใจที่ WADA ได้กล่าวคำขอโทษ ถึงตรงนี้สำหรับผมทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว และผมจะขอมองไปข้างหน้าเท่านั้น”
ถึงคำขอโทษจะมาช้า ถึงมลทินจะใช้เวลานานกว่า 4 ปีเพื่อลบล้างมัน และถึงจะไม่มีโอกาสดีๆ หวนกลับมาอีก
อย่างน้อยซาโกก็มีความสุข และสบตาใครได้อย่างไม่ต้องอายอีกครั้ง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: