×

‘มาม่า’ ไม่ง้อขึ้นราคา กำไรโตต่อเนื่องจากสินค้าใหม่-ตลาดต่างประเทศ ส่วน ‘ฟาร์มเฮ้าส์’ ลุยตลาดขนมปังสุขภาพ ส่งโฮลวีตใหม่สู้ศึกเบเกอรีเดือด

02.07.2024
  • LOADING...
มาม่า ฟาร์มเฮ้าส์

มาม่าและฟาร์มเฮ้าส์โชว์กำไรไตรมาสแรกโตไม่หยุด มองบวกครึ่งปีหลัง นโยบายค่าแรง ดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นกำลังซื้อ ฟาร์มเฮ้าส์ย้ำ ตลาดเบเกอรีแข่งเดือด รีบส่งขนมปังโฮลวีตรับเทรนด์สุขภาพ แก้เกมผู้เล่นรายใหญ่โหมสินค้าใหม่ไม่ยั้ง ส่วนมาม่าย้ำ แม้คนไทยกินมาม่าเท่าเดิม แต่ยังโตต่อเนื่อง เดินหน้าหาโอกาสสร้างรายได้โตในตลาดใหม่อย่างแอฟริกาใต้และอินเดีย

 

พันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มาม่า กล่าวในงาน Opportunity Day นักวิเคราะห์ นักลงทุนพบกลุ่มสหพัฒน์ ครั้งที่ 13 ปี 2567 ว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าที่เชื่อมโยงกับกำลังซื้อของประชาชนฐานรากค่อนข้างมาก ที่ผ่านมาบางคนอาจจะบอกว่าถ้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขายดีแปลว่าเศรษฐกิจไม่ดี แต่จริงๆ แล้วไม่ว่าเศรษฐกิจจะโตหรือไม่ ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็เติบโตขึ้น

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 

 


 

สะท้อนได้จากผลการดำเนินงานของมาม่าในปี 2566 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 32.01% อยู่ที่ 803.6 ล้านบาท โดยกำไรไม่ได้เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นราคาจาก 6 บาท เป็น 7 บาท แต่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนสินค้า นวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีมูลค่าสูง ควบคู่กับขยายตลาดไปยังประเทศใหม่ๆ

 

พร้อมควบคุมต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงรายได้จากโรงงานผลิตถ้วยกระดาษและแป้งสำหรับใช้ผลิตเบเกอรีที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

 

“ทำไมเราถึงบอกว่ากำไรไม่ได้เพิ่มขึ้นจากการขึ้นราคา เพราะทุกอย่างสอดคล้องกับต้นทุนทั้งหมด โดยเฉพาะต้นทุนของน้ำมันปาล์ม ในช่วง 3-4 ปีที่แล้วซื้อไม่เกินลิตรละ 15-20 บาท แต่ในช่วงที่ขอขึ้นราคา น้ำมันปาล์มราคาลิตรละ 45 บาท ปัจจุบันลดลงมาอยู่ที่ลิตรละ 38 บาท ซึ่งเห็นได้ว่าไม่ได้กลับมาสู่ระดับเดิม”

 

ทั้งนี้ มาม่าคาดหวังว่าในครึ่งปีหลัง หลังจากรัฐบาลมีนโยบายปรับขึ้นค่าแรงและเงินดิจิทัลวอลเล็ตออกมา จะช่วยให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อ กล้าจับจ่ายมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ามาม่าก็จะได้รับสัญญาณที่ดีตามไปด้วย

 

ถึงกระนั้นปัจจุบันสัดส่วนยอดขายอยู่ในประเทศเป็นหลัก แต่ตลาดเริ่มอิ่มตัวและมีข้อจำกัดเรื่องการบริโภค โดยคนไทยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 52.3 ซองต่อคนต่อปี ยังเท่าเดิม แต่ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ พบว่าอยู่ในระดับต้นๆ ของโลก รองจากเกาหลีและเวียดนาม แต่ประเมินว่าการบริโภคคงไม่ปรับตัวสูงขึ้นกว่านี้แล้ว

 

ดังนั้นทิศทางภายใน 3 ปีจากนี้ไป บริษัทจะรุกหนักขยายส่งออกสินค้าไปเปิดตลาดใหม่ๆ เช่น แอฟริกาใต้ ที่ตอนนี้บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแค่ 4 ซองต่อคนต่อปี ถือว่ายังมีโอกาสอย่างมาก รวมถึงอินเดียที่มีประชาชนจำนวนมาก

 

พร้อมขยายตลาดที่มีอยู่แล้วเพิ่มขึ้นอีก อย่างตลาดจีนและฟินแลนด์ แต่ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากในแต่ละตลาดจะมีผู้เล่นในตลาดเดิมอยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะแข่งขันกันเรื่องรสชาติและราคาเป็นหลัก โดยมาม่าแก้เกมด้วยการนำรสชาติท้องถิ่นเข้าไปเจาะตลาด ทำให้พบว่าเทรนด์อาหารไทยก็เริ่มมาแรงแล้ว

 

พันธ์กล่าวต่อว่า มาม่ามีเป้าหมายเติบโตอย่างยั่งยืน ส่วนในเชิงรายได้สิ้นปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 6-8% ซึ่งในไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 มีรายได้ 7,004.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% ถ้าเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,144.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 340.83 ล้านบาท

 

เมื่อมาดูทิศทางตลาดเบเกอรีในไทย อภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ ผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ฟาร์มเฮ้าส์ กล่าวว่า ในปีนี้แนวโน้มคนไทยกินขนมปังเติบโตขึ้น 9%

 

ขณะที่ภาพรวมตลาดเบเกอรีในไทยมีมูลค่า 40,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นและแข่งขันกันอย่างรุนแรง จะเห็นได้ว่าแบรนด์ใหญ่เริ่มส่งสินค้าใหม่บุกตลาดถี่มากขึ้น

 

ทำให้ฟาร์มเฮ้าส์ต้องปรับตัวคิดค้นสูตรขนมปังใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มขนมปังโฮลวีตรองรับเทรนด์สุขภาพ

 

ควบคู่กับการใช้พรีเซนเตอร์ชื่อดังเข้ามาช่วยสื่อสารแบรนด์ เพื่อช่วยดึงความสนใจจากผู้บริโภค พร้อมกับการเดินหน้าขยายตู้ Vending Machine เพิ่มอีก 1,000 ตู้ ซึ่งเป็นตู้จำหน่ายขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ และเครื่องดื่ม โดยแผนงานทั้งหมดจะช่วยกระตุ้นให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้น

 

ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทมีรายได้ 28,523.96 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,777.54 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา สามารถทำกำไรสุทธิกว่า 1,144.44 ล้านบาท โดยรวมแล้วทั้งปี 2567 บริษัทตั้งเป้าสร้างยอดขายเติบโต 10% ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ท่ามกลางการแข่งขันที่นับวันยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising