วานนี้ (31 มีนาคม) อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้เข้าพบประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ระหว่างทริปการเดินทางเยือนจีนครั้งแรกในฐานะผู้นำมาเลเซีย ซึ่งสื่อคาดการณ์ว่าทางฝั่งมาเลเซียเล็งที่จะขอความช่วยเหลือจากจีนในการสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมต่อระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์และสิงคโปร์
รายงานระบุว่าอิบราฮิมได้เดินทางมาถึงกรุงปักกิ่งตั้งแต่วันพุธ (29 มีนาคม) พร้อมกับคณะผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ การค้า การคมนาคม เทคโนโลยี การเคหะ และการท่องเที่ยว โดยภายหลังจากพบสีจิ้นผิงแล้วอิบราฮิมมีกำหนดเข้าพบนายกรัฐมนตรีหลี่เฉียงด้วยในวันนี้ (1 เมษายน) ซึ่งคาดว่าทั้งสองจะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตรและการค้ามากถึง 16 ฉบับด้วยกัน
สำหรับทริปการเดินทางเยือนจีนครั้งนี้มีการคาดการณ์กันว่าอิบราฮิมจะพยายามขอความช่วยเหลือจากจีนในการสานต่อโครงการบางส่วนของเส้นทางรถไฟเชื่อมสิงคโปร์-คุนหมิง (SKRL) หรือที่รู้จักกันในชื่อเส้นทางรถไฟแพนเอเชีย ซึ่งมีระยะทางรวมกว่า 6,617.5 กิโลเมตรและตัดผ่านหลายประเทศด้วยกัน รวมถึงไทย กัมพูชา และ สปป.ลาว โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Belt and Road Initiative ของจีน
นับตั้งแต่ปี 2009 จีนถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย โดยยอดการค้าระหว่าง 2 ประเทศในปี 2022 พุ่งขึ้นถึง 15.6% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 4.87 แสนล้านริงกิต (1.1062 แสนล้านดอลลาร์)
ด้าน งิวโจวบิ่ง (Ngeow Chow Bing) ผู้อำนวยการสถาบันจีนศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยมาลายา กล่าวว่า แม้อิบราฮิมจะดูเป็นผู้นำที่มีภาพลักษณ์สนับสนุนโลกตะวันตก แต่เขาจะสามารถใช้แนวทางทางการทูตที่เป็นมิตรกับทั้งสองฝ่ายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจีนเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
“ชัดเจนว่าเขาต้องการยกระดับความสัมพันธ์กับจีน ซึ่งเป็นการมองหาโอกาสใหม่ๆ มากกว่าที่จะเป็นการสร้างความเสี่ยงหรือความท้าทายใดๆ” งิวโจวบิ่งกล่าว พร้อมเสริมว่ามาเลเซียเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยี ซึ่งจุดนี้จะช่วยผลักดันให้มาเลเซียเป็นพันธมิตรที่สำคัญของจีนได้ด้วยเช่นกัน
ภาพ: Prime Minister’s Office of Malaysia via Nikkei Asia
อ้างอิง:
