วันนี้ (17 ธันวาคม) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ตั้ง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวในโอกาสดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปี 2568 จะส่งผลต่อการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ให้คืบหน้าขึ้นหรือไม่ว่า ต้องถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของอันวาร์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ตั้งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว และเป็นเรื่องส่วนตัวของทักษิณเช่นกัน ซึ่งทักษิณเป็นบุคคลสำคัญในระดับโลก ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาของอันวาร์เท่านั้น แต่เป็นที่ปรึกษาอีกหลายประเทศ เนื่องจากประสบการณ์ความสามารถที่แก้ไขปัญหาให้ประเทศไทยจนบรรลุผลและต่างประเทศยอมรับ จึงเป็นสิ่งที่หลายประเทศอยากได้รับคำปรึกษา
ภูมิธรรมกล่าวว่า ส่วนรัฐบาลไทยเห็นว่าการที่ทักษิณที่เป็นคนไทย รักชาติไทย เมื่อไปเป็นที่ปรึกษาอาจมีส่วนช่วยส่งเสริมการพัฒนาระหว่างสองประเทศ ให้ประสบความสำเร็จได้ดีขึ้นในทุกปัญหาที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ ส่วนจะมากหรือน้อยยังตอบแทนในเรื่องอนาคตไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลไทยจะให้ทักษิณเป็นที่ปรึกษาบ้างหรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวว่า ทักษิณเป็นคนที่แสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะมากอยู่แล้ว การจะเป็นที่ปรึกษาทำได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของกฎหมายที่อนุญาตให้มีบทบาทได้ หากกฎหมายให้เป็นที่ปรึกษาได้ไม่มีปัญหา เราก็อยากรับฟังอยู่แล้ว เพราะมีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา และจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของประเทศ
ทั้งนี้ ยังไม่ได้ดูข้อกฎหมายโดยละเอียดว่าสามารถทำได้หรือไม่ แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยมีความผูกพันกับทักษิณที่เป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย และในฐานะที่เราเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็เห็นว่ามีความสำเร็จอย่างดี ถ้าไม่มีปัญหาเราก็อยากรับฟัง แต่เวลานี้มีดราม่าเรื่องครอบงำจำนวนมากจึงต้องดูให้ดี และความเห็นของทักษิณที่แสดงผ่านสาธารณะรับฟังได้อยู่แล้ว ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยหรือพรรคอื่น หรือใครก็ตามจะหยิบเอาข้อคิดเห็นไปใช้ เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ทั้งหมด เช่น การจัดสัมมนา สส. พรรคเพื่อไทย ที่อำเภอหัวหิน เรียนเชิญทักษิณไปให้ความรู้และความเห็นต่อสถานการณ์สากลและผลกระทบที่เกิดขึ้นในเอเชียและประเทศไทย จึงไม่ต้องมีรูปแบบในการตั้งอะไร เพราะทักษิณแสดงความเห็นอย่างสม่ำเสมอ และเรานำสิ่งที่เห็นด้วยมาทำงานได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะชี้แจงอย่างไรหากบางประเทศในอาเซียนมองว่าบทบาทที่ปรึกษาประธานอาเซียนปี 2568 ของทักษิณอาจเป็นการเข้าไปแทรกแซง ภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่มีอะไรไปแทรกแซง และคำว่าครอบงำกับแทรกแซงควรต้องคิดพิจารณาอย่างเข้าใจใหม่ สมมติว่าประเทศในอาเซียนเชิญใครเข้าไปเป็นที่ปรึกษา ถือเป็นสิทธิของประเทศนั้นที่จะดำเนินกิจการภายใน
ส่วนความเห็นก็เป็นสิทธิของผู้นำประเทศที่จะแสดงความคิดเห็นซึ่งนำมาจากใครก็ได้ เรื่องครอบงำผู้นำอาเซียนเป็นเรื่องที่คิดกันไปเอง และหากคิดแบบนี้อาจจะมีดราม่าเกิดขึ้น และเชื่อว่าเวลานี้ไม่มีปัญหาอะไร