หลังจากที่คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าของไทยอนุมัติให้ ‘เครือซีพี’ สามารถควบรวมธุรกิจกับบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จํากัด ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีก ภายใต้เครื่องหมายการค้า Tesco Lotus ในไทยแบบมีเงื่อนไขไปเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าของมาเลเซียประกาศผลอนุมัติควบรวมระหว่างเครือซีพีและ Tesco Stores (Malaysia) Sdn. Bhd. ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้เครื่องหมายการค้า Tesco ในประเทศมาเลเซีย โดยมีเงื่อนไขสอดคล้องกับคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ในประเทศไทย
โดยเงื่อนไขที่ทางบอร์ดแข่งขันทางการค้าของมาเลเซียให้ความสำคัญมีความสอดคล้องกับคณะกรรมการ กขค. ประเทศไทยคือการสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอี โดยต้องมีการเพิ่มสัดส่วนคู่ค้าเอสเอ็มอีอย่างน้อย 10% เป็นเวลา 5 ปี ต้องสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการท้องถิ่นให้มีโอกาสขยายตลาดในต่างประเทศ
นอกจากนี้ เงื่อนไขสำคัญที่บอร์ดแข่งขันทางการค้ามาเลเซียให้ความสำคัญคือเงื่อนไขที่ให้กับคู่ค้าจะต้องคงไว้เหมือนเดิม ยกเว้นจะให้ข้อเสนอที่ดีกว่า แต่สิ่งที่มาเลเซียเพิ่มขึ้นมาคือพนักงานใน Tesco Stores ที่มาเลเซียนั้น ขอจำกัดจำนวนพนักงานต่างชาติที่มีทักษะในระดับต่ำ (Low-skill Working) อยู่ที่ไม่เกิน 15% โดยเน้นใช้คนท้องถิ่น หากจำเป็นต้องเพิ่มพนักงานจากต่างชาติ ขอเป็นผู้เชี่ยวชาญสูง หรือมีทักษะสูง เพื่อดึงคนเก่งเข้าประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ การอนุมัติดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่เครือซีพีชนะการประมูลเข้าซื้อธุรกิจ Tesco ในประเทศไทยและมาเลเซียด้วยมูลค่ากว่า 10,576 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 338,445 ล้านบาท โดยเป็นการเข้าซื้อผ่าน 3 บริษัทในเครือ ได้แก่ ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง 40%, CP ALL 40% และ CPF 20%
ข้อมูล ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2562 ระบุว่า Tesco ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีร้านค้าในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ตจํานวน 46 สาขา ซูเปอร์มาร์เก็ตจํานวน 13 สาขา และร้านค้าขนาดเล็กจํานวน 9 สาขา นอกจากนี้ยังมีธุรกิจให้เช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าจํานวน 56 สาขา
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์