Fahmi Fadzil รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารของมาเลเซีย ตำหนิ Meta อย่างรุนแรงที่ล้มเหลวในการลบเนื้อหาอาชญากรรมบนแพลตฟอร์ม เช่น Facebook และ Instagram อย่างรวดเร็ว โดยตั้งคำถามว่า Meta ไร้สำนึกหรือไม่ ในขณะที่ประชาชนตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงออนไลน์
รัฐบาลมาเลเซียเตรียมบังคับใช้ใบอนุญาตโซเชียลมีเดียตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม เป็นต้นไป เพื่อปราบปรามการหลอกลวง การพนันออนไลน์ และการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก โดยแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันส่งข้อความที่มีผู้ใช้งานในมาเลเซียอย่างน้อย 8 ล้านคน จะต้องลงทะเบียนเพื่อขอใบอนุญาต
Fahmi กล่าวว่า Meta ตอบสนองต่อคำขอลบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงหรือการพนันออนไลน์น้อยที่สุดในบรรดาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้งหมด
“รัฐบาลผิดหวังกับ Meta มาเป็นเวลานาน เราใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการสื่อสารกับ Meta ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวัน เพื่อให้ลบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์หรือการหลอกลวงที่ผิดกฎหมาย” Fahmi กล่าว
Fahmi ยกตัวอย่างกรณีที่ขอความช่วยเหลือจาก Meta เพื่อปิดบัญชีที่ปลอมตัวเป็นแพทย์ขายยาหยอดตาปลอม แต่ Meta ใช้เวลาถึง 6 เดือน กว่าจะดำเนินการใดๆ ซึ่ง “เราต้องยื่นเรื่องร้องเรียนด้วยตนเอง ในขณะที่ชีวิตของใครบางคนและชื่อเสียงของแพทย์ได้รับความเสียหาย” Fahmi กล่าว
ก่อนหน้านี้ Meta เคยวิพากษ์วิจารณ์มาตรการควบคุมโซเชียลมีเดียของมาเลเซีย โดย Rafael Frankel ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะของ Meta ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า กฎระเบียบใหม่รวดเร็วเกินไป และอาจจำกัดนวัตกรรมและการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
อย่างไรก็ตาม Fahmi ยืนยันว่า Facebook เป็นตัวเอื้อต่อกิจกรรมทางอาญามากที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ออกคำขอลบเนื้อหาไปยัง Facebook มากกว่า 170,000 รายการ คิดเป็น 91% ของโฆษณาการพนันและการหลอกลวงออนไลน์ทั้งหมดที่ตรวจพบ
Fahmi กล่าวว่า ตำรวจประเมินว่าชาวมาเลเซียสูญเสียเงิน 432 ล้านริงกิต (ประมาณ 3.3 พันล้านบาท) จากการหลอกลวงบน Facebook ในปี 2023
“ผมบอกทีม Facebook (เกี่ยวกับความสูญเสีย) เมื่อผมพบพวกเขาที่สิงคโปร์ ผมบอกคุณได้เลยว่าพวกเขาไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เหมือนกับคำกล่าวของชาวมาเลเซียที่ว่า ‘tiada hati perut’ (ไร้หัวใจ)” Fahmi กล่าว
Fahmi ปฏิเสธข้อกังวลของ Meta เกี่ยวกับแผนการออกใบอนุญาต โดยโต้แย้งว่า กฎระเบียบที่เข้มงวดไม่ได้ขัดขวางให้ยักษ์เทคพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ
นอกจากนี้ Fahmi ยังเน้นย้ำถึงปัญหาสื่อลามกอนาจาร โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเด็ก ซึ่งกำลังเพิ่มขึ้นบนแพลตฟอร์มต่างๆ โดยตำรวจกำลังสืบสวนข้อร้องเรียนที่นำรูปภาพของเด็กนักเรียนหญิงในเครื่องแบบไปใช้ในโพสต์และกลุ่มที่มีเนื้อหาเชิงชี้นำทางเพศ
Fahmi กล่าวว่า การแก้ไขเพิ่มเติม Communications and Multimedia Act จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดและผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมสื่อลามกอนาจารออนไลน์ได้
อ้างอิง: