สภาความมั่นคงแห่งชาติของมาเลเซียมีมติผ่อนปรนข้อจำกัดเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว ซึ่งรวมถึงการอนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารที่ร้านและการเล่นกีฬาแบบไม่สัมผัสตัว โดยการผ่อนคลายดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคมเป็นต้นไป สำหรับประชาชนในรัฐและดินแดนต่างๆ ที่อยู่ภายใต้ระยะที่ 1 ของแผนการฟื้นฟูแห่งชาติ (National Recovery Plan: NRP) ซึ่งรวมถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองปุตราจายา รัฐเกดะห์ สลังงอร์ เนกรีเซมบิลัน มะละกา และยะโฮร์
แถลงการณ์ได้ระบุให้เจ้าของร้านอาหารจัดพื้นที่เอาต์ดอร์ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มการระบายอากาศ เนื่องจากพื้นที่ปิดมีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโควิดสูงกว่า ขณะเดียวกันเจ้าของร้านอาหารต้องขอให้ลูกค้าแสดงใบรับรองดิจิทัลเพื่อยืนยันว่าฉีดวัคซีนครบแล้ว ก่อนที่จะเข้าไปภายในร้าน
นอกจากการนั่งรับประทานอาหารภายในร้านแล้ว การเล่นกีฬาและการทำกิจกรรมสันทนาการที่ไม่มีการสัมผัสตัวก็ได้รับอนุญาตเช่นกัน โดยตอนนี้ประชาชนในรัฐและดินแดนต่างๆ ที่อยู่ภายใต้มาตรการผ่อนปรนระยะที่ 1 สามารถออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา ได้แก่ วิ่งจ็อกกิ้ง ตกปลา ขี่ม้า ยิงธนู เดินป่า กอล์ฟ เทนนิส และแบดมินตัน ทั้งในพื้นที่เปิดและกึ่งเปิด ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.
นอกจากนี้กิจกรรมที่ได้รับอนุญาตเพิ่มเติมยังรวมถึงการปิกนิกและการตั้งแคมป์ด้วย โดยเด็กอายุ 17 ปีและต่ำกว่า สามารถเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวได้ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานแนวทางการปฏิบัติงาน (Standard Operating Procedure: SOP) อย่างเคร่งครัด
ในขณะเดียวกันตลาดและตลาดกลางคืนก็ได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดดำเนินการได้เช่นกัน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าของสถานที่จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกค้าแสดงหลักฐานว่าได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว
การประกาศผ่อนคลายเพิ่มเติมล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากที่เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม มาเลเซียได้อนุญาตให้ธุรกิจหลายประเภทในรัฐและดินแดนที่อยู่ภายใต้ระยะที่ 1 ของ NRP กลับมาเปิดดำเนินการได้ เช่น ร้านล้างรถ ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ร้านจำหน่ายอุปกรณ์กีฬา ร้านอัญมณี และร้านทำผม
ทั้งนี้ มาเลเซียทยอยผ่อนปรนมาตรการควบคุมโควิดในรัฐและดินแดนต่างๆ โดยรัฐและดินแดนที่เข้าสู่มาตรการผ่อนคลายระยะที่ 2 และ 3 จะมีข้อจำกัดที่ไม่เข้มงวดเท่าระยะที่ 1
โดยเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม มีการประกาศให้ชาวมาเลเซียที่ได้รับวัคซีนครบแล้วและผู้อาศัยถาวรที่เดินทางกลับจากต่างประเทศสามารถเข้ารับการกักตัวที่บ้านได้ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคมเป็นต้นไป นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่ร้าน การเดินทางข้ามเขต และกิจกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ ยังได้รับอนุญาตสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนครบแล้วในรัฐที่เข้าสู่การผ่อนคลายระยะที่ 2 และ 3
สำหรับการตัดสินใจผ่อนปรนข้อจำกัดเพิ่มเติมล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากที่มาเลเซียมีผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วเป็นจำนวนเกินกว่า 50% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในวันที่ 31 สิงหาคม อีกทั้งข้อมูลที่รวบรวมโดยกระทรวงสาธารณสุขยังแสดงให้เห็นว่า ในรัฐที่ประชากรมากกว่า 40% ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วนั้นพบว่า ผู้ป่วยโควิดประเภท 3 (มีอาการปอดบวม) ถึงประเภท 5 (ภาวะวิกฤต) มีจำนวนลดลง
โดยผู้ที่ได้รับการพิจารณาว่าฉีดวัคซีนครบแล้วนั้นจะต้องได้รับวัคซีน Pfizer-BioNTech, AstraZeneca หรือ Sinovac เข็มที่ 2 ไปแล้ว 14 วัน หรือฉีดวัคซีนชนิดเข็มเดียว เช่น Johnson & Johnson หรือ CanSino ผ่านไปแล้ว 28 วัน
สำหรับสถานการณ์โควิดของมาเลเซีย ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 สิงหาคม) มีรายงานจำนวนผู้ป่วย 23,564 ราย ทำสถิตินิวไฮเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1.5 ล้านราย
ภาพ: Wong Fok Loy / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง:
