“เพราะ ‘สัตว์เลี้ยง’ คือสมาชิกสำคัญในครอบครัวที่ไม่ควรถูกแบ่งแยก” แทบจะ 100% ของเหล่าทาสหมา ทาสแมว คงจะพยักหน้าเห็นด้วยกับประโยคข้างต้น
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา พฤติกรรมของคนเลี้ยงสัตว์มีแนวโน้มเปลี่ยนไปอย่างมาก จากเดิมที่มองสัตว์เลี้ยงเป็นเพียงเพื่อนคลายเหงา แต่ปัจจุบันสัตว์เลี้ยงถูกมองเป็นสมาชิกในครอบครัว
ผลสำรวจความคิดเห็นของคนที่มีสัตว์เลี้ยงจาก Morgan Stanley Research พบว่า กว่า 70% ให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัว และ 66% รักและผูกพันกับสัตว์เลี้ยงมาก
ที่น่าสนใจคือ 47% มองสัตว์เลี้ยงเป็นเสมือนลูก ตัวเลขนี้ยังตรงกับผลสำรวจล่าสุดปี 2566 จาก CMMU มหาวิทยาลัยมหิดล ชี้ว่า คนไทยกว่า 49% เลือกเลี้ยงสัตว์เป็นลูก จากกลุ่มตัวอย่าง 1,046 คน ยังพบว่า 80.7% ของผู้เลี้ยงสัตว์มีสถานะโสด 19.3% แต่งงานแล้ว โดย 18% ของกลุ่มตัวอย่างบอกว่าเลี้ยงสัตว์เพื่อช่วยเหลือและช่วยบำบัดรักษา (Pet Healing) เนื่องจากการสัตว์เลี้ยงจะช่วยเพิ่มระดับสารออกซิโทซิน (Oxytocin) หรือที่เรียกกันว่า ฮอร์โมนแห่งความรัก ทำให้เกิดความผูกพันมากถึง 20%
ด้วยเหตุนี้เอง เทรนด์ Pet Parent หรือ Pet Humanization เติบโตอย่างแข็งแกร่งในประเทศไทย ข้อมูลจาก Euromonitor และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์ว่าปี 2569 ตลาดสัตว์เลี้ยงของโลกเติบโตเฉลี่ยปีละ 7.2% (Compound Annual Growth Rate: CARG) โดยเฉพาะตลาดภาคพื้นเอเชีย เช่นเดียวกับมูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงของไทยจะเติบโตจากปี 2564 ปีละ 8.4% (CARG) มาอยู่ที่ 66,748 ล้านบาทในปี 2569
มากไปกว่าหน้าตาและท่าทางแสนน่ารัก แววตาใสซื่อ และความขี้อ้อนที่ตกหัวใจเหล่าทาสได้อยู่หมัด เบื้องลึกที่ทำให้เหล่า Pet Parent ยอมทุ่มสุดตัวดูแลพวกเขาอย่างดี ยังมีความเชื่อมโยงกับสมองของมนุษย์ Lori Palley สัตวแพทย์และทีมวิจัยของ Massachusetts General Hospital ได้ใช้เทคโนโลยีการสร้างภาพด้วยเรโซแนนซ์แม่เหล็ก (MRI) เพื่อศึกษากิจกรรมของสมองของแม่มนุษย์จำนวน 14 ราย ระหว่างที่พวกเธอปฏิสัมพันธ์กับเด็กทารกมนุษย์และลูกสุนัขพบว่า สมองของมนุษย์มีการตอบสนองจุดเดียวกันระหว่างเด็กทารกและลูกสุนัข โดยเฉพาะสมองส่วนกลาง นำไปสู่คำตอบที่ว่า ทำไมบางคนถึงรักและผูกพันกับสัตว์เลี้ยงเหมือนลูก เพราะสัตว์เลี้ยงก็สามารถมอบความพึงพอใจให้กับมนุษย์ไม่แพ้การเลี้ยงดูเด็กทารกนั่นเอง
เมื่อ Pet Parent มองสัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนลูกคนหนึ่ง การดูแลพวกเขาตั้งแต่เรื่องการกิน การนอน พัฒนาการ ไปจนถึง ‘ที่อยู่อาศัย’ จึงเป็นสิ่งสำคัญ
‘ที่อยู่อาศัย’ ที่ตอบโจทย์ Pet Parent จากนี้ไปคงไม่ใช่แค่การอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้เท่านั้น เพราะถ้าเราต้องอยู่กับลูกๆ สี่ขาเหมือนเป็นคนในครอบครัว จะต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อพวกเขาด้วย
และถ้าเป็นเรื่องความมุ่งมั่นสร้างสังคม Pet-Friendly อย่างแท้จริงแล้วละก็ ต้องหลีกทางให้กับ ‘เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์’ แบรนด์อสังหาผู้บุกเบิก Pet-Friendly มากว่า 24 ปี และเป็นแบรนด์แรกในไทยที่อนุญาตเลี้ยงสัตว์ได้ทุกโครงการ
การันตีว่าเป็นตัวจริงด้าน Pet-Friendly ของวงการอสังหา ด้วยรางวัลจากบ้านและสวน Pets ในงานบ้านและสวนแฟร์ Midyear 2022 สาขา ‘ที่อยู่อาศัยที่เข้าใจคนรักสัตว์เลี้ยงดีเด่นประจำปี 2022’ ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าใจการอยู่อาศัยของคนและสัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ร่วมกันในคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้อย่างครบทุกองค์ประกอบ
แนวคิดการพัฒนาที่อยู่อาศัย Pet-Friendly เป็นการผสานระหว่าง Pet Insights กับ Customer Insights จนต่อยอดเป็น Pet-Friendly Residences สู่ MAJOR PETSCAPE ตอบสนองความต้องการทุกมิติการใช้ชีวิตร่วมกันของคนและสัตว์เลี้ยง ที่ไม่ใช่แค่มัดใจคนรักสัตว์ แต่คิดเผื่อไปถึงเรื่องการออกแบบพื้นที่ที่ปลอดภัย สะดวกสบาย ตอบโจทย์สัตว์เลี้ยง เจ้าของสัตว์เลี้ยง ไปจนถึงคนทั่วไปที่ไม่มีสัตว์เลี้ยง
ผลลัพธ์จากความใส่ใจอย่างแท้จริงด้าน Pet-Friendly ทำให้ตัวเลขสมาชิกครอบครัวเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่มีการลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงในฐานะลูกบ้านในทุกโครงการรวมแล้วมากกว่า 1,000 ตัว และเมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนในช่วง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2564-2566 พบว่ามีลูกบ้านกลุ่มคนรักสัตว์ที่ลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงกับทางนิติบุคคลจากปี 2564 อย่างมีนัยสำคัญ เฉลี่ย 27%, 38% และ 52% ตามลำดับ
เพื่อตอกย้ำการเป็น ‘ผู้นำตัวจริง’ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จึงต่อยอดแนวคิด MAJOR PETSCAPE ยกระดับมาตรฐานการพัฒนาที่อยู่อาศัยอีกขั้น สร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่มีคุณค่าและมีความหมายขั้นกว่าของ ‘Pet-Friendly’ ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพ การใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ร่วมกันของผู้อยู่อาศัยและสัตว์เลี้ยง ภายใต้พันธสัญญา ‘MAJOR Pet Family Residences’ ครั้งแรกและแบรนด์แรกที่ให้คุณและสัตว์เลี้ยงได้ใช้ชีวิตและเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยร่วมกัน บนพื้นที่ที่ดีไซน์เพื่อรองรับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนและสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ
เปิดพันธสัญญา ‘MAJOR Pet Family Residences’ เกี่ยวก้อย “สัญญา ว่าจะดูแลกันตลอดไป”
หากถาม คุณเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ว่าอะไรคือความภาคภูมิใจสูงสุดตลอดระยะเวลาที่ปลุกปั้นแนวคิด MAJOR PETSCAPE ในฐานะ Pet Parent ตัวจริง เธอคงตอบว่า ‘การสร้างสังคมที่มอบความสุขแบบเท่าเทียมระหว่างคนและสัตว์เลี้ยง’
คุณเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
“สัตว์เลี้ยงไม่ได้มีหน้าที่มอบความสุขให้กับเจ้าของเพียงฝ่ายเดียว แต่ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงต่างควรมอบความสุขซึ่งกันและกันอย่างเท่าเทียม” คุณเพชรลดากล่าว
เมื่อแม่ทัพของแบรนด์มีเป้าหมายที่จะสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยให้คนและสัตว์เลี้ยงอยู่ร่วมกันได้อย่างเท่าเทียม จึงเป็นที่มาของ ‘MAJOR Pet Family Residences’ พันธสัญญาที่ยกระดับความสัมพันธ์ให้เป็นมากกว่า Pet-Friendly แต่ปฏิบัติกับสัตว์เลี้ยงในฐานะ ‘สมาชิกของครอบครัว’ ครั้งแรกและแบรนด์แรกที่ให้คุณและสัตว์เลี้ยงใช้ชีวิตและเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยร่วมกัน ภายใต้พันธสัญญา “สัญญา ว่าจะดูแลกันตลอดไป”
จูงสมาชิกสี่ขาสำรวจที่อยู่อาศัยภายใต้มาตรฐานใหม่ ‘MAJOR Pet Family Residences’
คำจำกัดความของ ‘MAJOR Pet Family Residences’ จะถูกสะท้อนให้เห็นเป็นรูปธรรมในทุกมิติตั้งแต่การวางรูปแบบการดีไซน์ Petscape Design โดยผนึกพันธมิตรและผู้เชี่ยวชาญกว่า 60 แบรนด์ ร่วมกันดีไซน์พื้นที่ภายในโครงการและมอบสิทธิประโยชน์มากมายให้น้องๆ อย่าง โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ, โรงพยาบาลสัตว์คชาเว็ท, LION Pet Care Royal Canin, PETClub, Bake n Bone, Doquabistro, Mellow Pet Shop และ PAWxPAW MEWRE เป็นต้น เพื่อขยายพื้นที่ความสุขร่วมกันของคนและสัตว์เลี้ยงในแต่ละโครงการ
ยกตัวอย่าง ‘โครงการ เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว คอนโดมิเนียม’ หยิบเอาพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีความชื่นชอบหลากหลาย ทลายข้อจำกัดของประเภทสัตว์เลี้ยงตามความชื่นชอบที่แตกต่าง จึงดีไซน์ในรูปแบบ Craft & Quality ควบคู่กับ Pet-Friendly ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางใหม่ เช่น ‘Multi-Pet Playroom’ พื้นที่พิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยงทางเลือกอย่าง กระต่าย ชินชิลล่า เม่นแคระ หรือ ‘Cat Haus’ พื้นที่สำหรับน้องแมวโดยเฉพาะ และ ‘Pet Park’ พื้นที่ออกกำลังกายขนาดใหญ่ที่ให้น้องหมาได้ทำกิจกรรมกลางแจ้งกับเจ้าของ
นอกจากงานดีไซน์ยังเพิ่มเรื่องการวางมาตรการเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างและตกแต่งภายใต้มาตรฐาน Non-Toxic และ Zero VOCs ที่เป็นมิตรต่อคนและสัตว์เลี้ยง ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้บ้านเย็นและยับยั้งเชื้อโรคต่างๆ ทั้ง Solar Attic, Organic Care, Duraclean A+, Nanoe™ X air & odor purifier, UV Care254 Airflow เป็นต้น
ภายใต้พันธสัญญา “สัญญา ว่าจะดูแลกันตลอดไป” ยังดูแลไปถึงความสุขใจด้วยการจัดเตรียมสิทธิพิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยง หรือ ‘Petscape Privilege’ ตั้งแต่แรกเริ่มเข้ามาเยี่ยมชมโครงการฯ กับ PET-kit และ Petscape Welcome Package ต้อนรับสู่การร่วมเป็นครอบครัวเมเจอร์ฯ นอกจากจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย จะได้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสัตว์เลี้ยงตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมเวิร์กช็อปสำหรับสัตว์เลี้ยง กิจกรรมคอนเสิร์ต รวมถึงงานแฟร์ หรืองานอีเวนต์พิเศษนอกสถานที่
จับดาต้าผสานประสบการณ์ Pet Parent ตัวจริง สู่แคมเปญการตลาดที่ทัชใจคนรักสัตว์
นอกจากจะเดินหน้ายกระดับความสัมพันธ์ผ่านการออกแบบที่ใส่ใจยิ่งขึ้นและเท่าเทียมมากขึ้น เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ตั้งใจถ่ายทอดมุมมองเกี่ยวกับ ‘MAJOR Pet Family Residences’ ผ่านภาพยนตร์โฆษณา “สัญญา ว่าจะดูแลกันตลอดไป”
#PetFamilyResidences เพื่อสร้างการรับรู้ถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์และย้ำภาพผู้นำตัวจริงที่สร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยเลี้ยงสัตว์ได้ ‘ทุกโครงการ’ โดยรวบรวมประสบการณ์และความประทับใจจากลูกบ้านกลุ่ม Pet Lover ตัวจริงมาสร้างสรรค์เป็นแคมเปญ
เตือนก่อนว่า หนังโฆษณาชิ้นนี้อาจทำให้คุณน้ำตารินด้วยความอิ่มสุข ยิ้มแก้มไม่หุบให้กับความน่ารักไร้เดียงสาของน้องหมา น้องแมว และทัชใจกับความในใจของลูกบ้านกลุ่ม Pet Lover ตัวจริง ที่พร้อมใจกันให้คำมั่นว่า “สัญญา ว่าจะดูแลกันตลอดไป”
พอเห็นอสังหาแบรนด์ใหญ่มุ่งมั่นทำสิ่งดีๆ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่เพื่อการอยู่อาศัยร่วมอย่างมีความสุขระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยงแล้วก็อุ่นใจแทนสัตว์เลี้ยง ว่าต่อไปจะได้เห็นพวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีเทียบเท่ากับมนุษย์ผู้เป็นทาสอย่างเราๆ
และเชื่อว่า ‘MAJOR Pet Family Residences’ ซึ่งถือเป็นการจับจุดยืนทางการตลาดที่แตกต่าง แต่จับใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง จะกลายเป็นมาตรฐานสำคัญครั้งใหม่ของวงการอสังหา ขณะเดียวกันเมเจอร์ฯ ก็คงจะเดินหน้าพัฒนาฟังก์ชันเพื่อการอยู่อาศัยร่วมกับสัตว์เลี้ยงเต็มรูปแบบ ยกระดับความสุขในการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ร่วมกัน จนเกิดเป็นคอมมูนิตี้เพื่อคนรักสัตว์คุณภาพเพื่อความสุขในการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนต่อไป
ตามพันธสัญญา “สัญญา ว่าจะดูแลกันตลอดไป”