นักลงทุนสถาบันรายใหญ่ระดับโลกหลายรายเชื่อว่า หุ้นจีน ได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว หลังจากปรับลดลงอย่างรุนแรงในเดือนกรกฎาคม และกำลังจะมีสัญญาณทะยานขึ้นครั้งใหม่ในครึ่งปีหลัง โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากกำไร บจ. ของตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงที่มีการเติบโต และนโยบายการเงินที่สวนทางกับชาติอื่น
Fidelity International Ltd., abrdn plc. และ GAM Investment Management กลุ่มบริษัทด้านการลงทุน คาดการณ์ว่าในครึ่งปีหลังปีนี้ตลาดหุ้นจีนจะ Outperform เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ถูกกดดันจากความกังวลต่อการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
และเมื่อเจาะลึกลงในในหุ้นเทคฯ ขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นฮ่องกง ทาง Federated Hermes Inc. และ Brandes Investment Partners LP กล่าวว่า ฝันร้ายจากการปราบปรามของทางการจีนนั้นได้ถูกรับรู้ในราคาหุ้นไปแล้ว
หุ้นจีนและฮ่องกงได้ปรับตัวขึ้นในเดือนกรกฎาคม หลังจากเผชิญกับปัจจัยลบมากมาย ทั้งจำนวนผู้ติดเชื่อโควิดที่เพิ่มสูงขึ้น การยุติชำระค่าบ้าน และการปรับเปลี่ยนด้านกฎระเบียบใหม่ๆ เกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ ซึ่งทำให้เกิดแรงเทขายครั้งใหญ่เมื่อปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกที่ไม่ควรมองข้ามคือ การการเปิดประเทศใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป การสิ้นสุดการสอบสวนด้านกฎระเบียบของหุ้น และความหวังของมาตรการที่เป็นมิตรต่อตลาดที่พรรค National Party Congress ให้ความสำคัญ
แนวโน้มกำไร บจ. ‘เติบโตดี’
“ตลาดได้รับข่าวเชิงลบส่วนใหญ่ในระยะสั้น ตอนนี้ดูเหมือนว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนรอดูผลลัพธ์เชิงบวกที่ชัดเจนจากการสนับสนุนด้านนโยบายของภาครัฐ ซึ่งเชื่อว่าธนาคารกลางจีนมีกระสุนมากกว่าฝั่งตะวันตก จีนยังสามารถพึ่งพารัฐบาลได้ ทั้งนโยบายการเงินและการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ” Steven Luk ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ FountainCap Research & Investment ในฮ่องกงกล่าว
ความเคลื่อนไหวดัชนีในช่วงที่ผ่านมา 2 ดัชนีสำคัญปรับลดลงราว 6% ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยดัชนี Hang Seng เพิ่งฟื้นตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากการตกต่ำในช่วงก่อนหน้าจนทำระดับต่ำสุดรอบ 2 ปี ขณะที่ดัชนี CSI 300 ก็ปรับลดลงในอัตราที่ช้าลง ซึ่งสะท้อนว่าข่าวร้ายต่างๆ ที่คอยกดดันตลาดกำลังหมดไป
ในขณะเดียวกัน การไหลออกสุทธิจากต่างประเทศจากตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ชะลอตัวลงเหลือ 3.8 พันล้านหยวน (562 ล้านดอลลาร์) ซึ่งน้อยกว่า 1 ใน 5 ของสัปดาห์ที่แล้ว และในเดือนที่ผ่านมากองทุน ETF ที่เน้นลงทุนในหุ้นจีน ก็สามารถดึงดูดกระแสไหลเข้าสุทธิได้มากที่สุดในโลก
นโยบายการเงินสวนทางประเทศอื่น
ในช่วงเวลาที่ประเทศเศรษฐกิจสำคัญหลายประเทศเข้าสู่วงจรดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งทำให้เกิดสภาวะการเงินตึงตัวและส่งผลเสียต่อการการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่จีนกลับมีความมุ่งมั่นที่จะรักษาการเติบโตเศรษฐกิจให้คงอยู่ บวกกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีความโดดเด่น แม้ว่าการดำเนินนโยบายการเงินเช่นนี้จะไม่ช่วยให้จีนต้านทานภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ แต่ก็ทำให้จีนกลายเป็นทางเลือกสำหรับผู้จัดการกองทุนที่มองหาแหล่งลงทุนในสภาวะเช่นนี้
Jian Shi Cortesi ผู้อำนวยการด้านการลงทุนในเมืองซูริกของ GAM กล่าวว่า นโยบายของจีนสวนทางกับประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ หากดัชนีหุ้นโลกเคลื่อนแกว่งตัวแบบ Sideway หรือค่อยๆ ลดลง หุ้นจีนก็ยังสามารถทำงานได้ดี
เงินทุน ‘ไหลออกช้าลง’
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาแรงขายหุ้นจีนโดยนักลงทุนสถาบันนั้นลดลง เนื่องจากนักลงทุนมองโลกในแง่ดีมากขึ้น แม้จะยังเฝ้าระวังตัวเลขผู้ติดเชื้อในจีนที่ยังคงเพิ่มขึ้น แต่ท่าทีของรัฐบาลในการลดพื้นที่ล็อกดาวน์เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความเสียหายเพิ่มเติมต่อเศรษฐกิจ รวมทั้งความความพยายามในการกลับมารับนักท่องเที่ยวต่างประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไป และการลดข้อกำหนดการกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ เหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณว่าการบริโภคและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกำลังเพิ่มขึ้น
ด้วยมุมมองเชิงบวก ทำให้มีการคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนของตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงจะเติบโตดีขึ้น โดยการคาดการณ์กำไรล่วงหน้าสำหรับดัชนี CSI 300 และดัชนี Hang Seng ดูเหมือนผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว สะท้อนจากตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ปรับขึ้น 2% นับจากกลางเดือนมิถุนายนจนปัจจุบัน ซึ่งสวนทางกับดัชนี MSCI Asia Pacific ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
Prashant Bhayani หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนประจำภูมิภาคเอเชียของ BNP Paribas Wealth Management กล่าวว่า ตอนนี้หุ้นกลุ่มบริโภคภายในประเทศของจีนยังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง แต่หุ้นเหล่านี้จะเริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้นหลังจากผ่านปีนี้ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงอาจจะมีการซึมๆ อยู่บ้าง เนื่องจากยังมีปัจจัยลบคอยกดดัน เช่น วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของจีน
นักยุทธศาสตร์ของ Goldman Sachs Group Inc. กล่าวว่า แม้จะให้น้ำหนักลงทุนในหุ้นจีนมากกว่าตลาด แต่ก็ได้ปรับลดประมาณการสำหรับดัชนี MSCI China เช่นกัน ด้วยความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากกรณีการประท้วงของผู้ซื้อบ้านที่คว่ำบาตรการชำระเงินค่าจำนอง อย่างไรก็ตาม ยังคงเชื่อว่าวิกฤตอย่างเต็มรูปแบบไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เนื่องจากรัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วก่อนการชุมนุมระดับชาติของพรรคคอมมิวนิสต์ในฤดูใบไม้ร่วงนี้
Andrew McCaffery หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนระดับโลกของ Fidelity International สรุปส่งท้ายว่า หุ้นจีนนั้นจะเป็นลักษณะเหมือนก้าวไปข้างหน้า 3 ก้าว และถอยหลัง 1-2 ก้าว แต่นั่นคือโอกาส และยังไม่มีสัญญาณของขาลงอีกครั้ง
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP